เวลา 16.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ถนนวิภาวดี - รังสิต พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงเป็นครั้งแรกหลังทราบผลเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ ว่า พรรคเสรีรวมไทยยืนหยัดเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ จุดยืนของพรรคอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่มีการทาบทามจากพรรคการเมืองใดให้เข้ารวมรัฐบาล ล่าสุดทราบว่ามีพรรคการเมืองขนาดเล็กได้ส.ส.รวมกัน 12 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเสรีรวมไทยได้ ส.ส. 12 ที่นั่งจากแบบบัญชีรายชื่อ ความจริงพรรคเสรีรวมไทยควรได้ ส.ส.มากกว่านี้ เพราะก่อนเลือกตั้งเพียง 3 วัน ได้ทำโพลแล้วพบว่าพรรคจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 50 คน แต่ผลเลือกตั้งออกมาไม่ได้ ส.ส.เขต ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะตนสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่คะแนน ส.ส.เขต 30 เขต ออกมาได้เพียง 9 หมื่นกว่าคะแนนน้อยกว่าที่ตนลงสมัครผู้ว่าฯกทม. อีกทั้งเขตหน้าบ้านตนพบว่ามีเสียงของพรรคเสรีรวมไทยเพียง 40เสียง ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากพรรคเสรีรวมไทยถูกนับคะแนนเป็นบัตรเสียทุกหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศหน่วยละ 20 ใบก็จะทำให้พรรคเสียคะแนนไปถึง 2 ล้านเสียง

สำหรับมีเงื่อนไขร่วมรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย พรรคต้องคำนึงประเทศและประชาชนเป็นหลัก เรารู้ว่าเลือกตั้งเสร็จ การจัดตั้งรัฐบาลคือควรเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. มากที่สุดให้ตั้งรัฐบาลก่อน พรรคที่มีคะแนนอันดับ 2-3 ไม่ควรไปแย่งจัดตั้งรัฐบาลจะเสียมารยาท ถ้าแย่งจัดตั้งรัฐบาลแข่งถือว่าเสียมารยาทมาก ถ้าแย่งจัดตั้งอาจมีการเสนอประโยชน์ให้เป็นรัฐมนตรี ถ้าพรรคการเมืองมี ส.ส. 1 ที่นั่งก็อาจได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงินได้ ไม่ควรทำจะทำให้บาดหมางใจกัน ควรเคารพกติกา ยืนยันพรรคเสรีรวมไทยจะเปิดทางให้พรรคที่ได้เสียง ส.ส. มากที่สุดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งตนไม่มีข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น เพราะจะทำให้การตั้งรัฐบาลลำบาก

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐที่กำลังประกาศจะตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคเพื่อไททย ควรหยุดจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ในขณะนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐมาเป็นที่ 2 ควรมีมารยาท หยุดการเคลื่อนไหว อย่างพรรคเสรีรวมไทยไม่แสดงตัวที่จะตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว 

"ผมได้ 12 ส.ส. ผมไม่แสดงตัวใครจะเอาไงก็เอาไป ถ้าเราแสดงท่าทีจะอยู่ประชาธิปไตย หรือเรามาเลือกตั้งเพื่อทำงานให้ประชาชนในระบบประชาธิปไตย ใครประชาธิปไตยเสื้อคลุมลายพราง แล้วเราจะไปร่วมกับใคร" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระรบุ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ตลอดเวทีดีเบตทีผ่านมา ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐได้อย่างไร ส่วนตัวก็บอกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเคยพูดมาตลอดทางเวทีดีเบตว่า นายกฯต้องมาจากหัวหน้าพรรคฝ่ายประชาธิปไตย คือไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ เพราะไม่ได้อยู่ในระบบไม่ได้สมัคร ส.ส.ด้วย เคยยืนยันไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ คุณหญิงสุดารัตน์ (เกยุราพันธุ์) สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ยังอยู่ในระบบ ยืนยันตนจะไม่ไปร่วมกับเผด็จการ ส่วนตัวอยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแสดงจุดยืนเหมือนตนว่าไม่เอาเผด็จการ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตย ถ้านายอนุทินอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยก็อาจได้เป็นนายกรัฐมนตรี

"ถ้าเอาพรรคพวกนี้รวมกันหมดจับมือกันหมดก็จัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ไม่ต้องพึ่งเผด็จการหรือ ส.ว. ผมถาม คุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) จับมือคุณหญิงสุดารัตน์ได้ไหม เขายืนยันไม่ได้ ผมบอกว่าคุณอภิสิทธิ์อยู่กับผมได้ไหม ก็ได้ คุณหญิงสุดารัตน์ก็อยู่กับผมได้ ถ้าได้ก็จับมือชูผมเป็นนายกฯก็อยู่กันได้ ไม่เสียคำพูดด้วย ถ้าคุณอภิสิทธิ์อยู่กับผมก็ไม่เสียคำพูดไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ถ้าเพื่อไทยอยู่กับผมก็ไม่เสียคำพูดว่าไม่เอาประชาธิปัตย์ จัดรัฐบาลได้" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เชื่อว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก เพราะในอดีตก็เคยจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารมาก่อน ส่วนตัวจึงบอกให้ปฏิรูปทหาร แต่ตนเองก็ไม่ได้หวังว่าจะเป็น รมว.กลาโหม แต่ถ้าจะให้ปฏิรูปทหารต้องให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี

"ถ้าสมมติฝ่ายประชาธิปไตยอยากให้ปฏิรูปกองทัพต้องให้ผมเป็นนายกฯ ควบ รมว.กลาโหมถึงจะเสร็จ ถ้าให้ผมเป็น รมว.กลาโหมอย่างเดียว แล้วได้นายกฯ ขี้ปอดผมจะเอาทำไมไม่ได้เป็นผู้นำ ถ้าปฏิรูปทหารไม่ได้ก็มาใช้บริการผม จะให้ผมไปรวมกับเผด็จการอย่าพูดเสียคนเลย เสียหมา ถ้าจะให้ผมปราบทหารต้องให้ผมเป็นนายกฯ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ

ทั้งนี้ พรรคเสรีรวมไทยอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในประเด็นต่างๆ รวมถึงประเด็นล่าสุด ที่ กกต.มีมติให้บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ส่งจากประเทศนิวซีแลนด์จำนวน 1,542 ใบ เป็นบัตรเสีย เนื่องจากตนเป็นอยู่ฐานะผู้เสียหาย