ไม่พบผลการค้นหา
'เศรษฐา' มั่นใจการแต่งตั้ง 'ผบ.ตร.' ชอบธรรม-ไม่ได้ลุอำนาจ หลัง 'ทนายอนันต์ชัย' ร้อง ป.ป.ช.สอบ ขณะยืนยันค่าสร้าง "แอปพลิเคชั่นดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่ได้สูงถึง 1.2 หมื่นล้าน ชี้ใช้เงินน้อยมาก แจงเครือข่ายนายกฯ ไม่มีเข้ามาเอี่ยว บอกไม่เป็นไร พร้อมชี้แจงเพราะเป็นบุคคลสาธารณะ

วันที่ 17 ต.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนานกฯ กรณีแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมโดยมิชอบขัดต่อกฎหมายฯ นั้น ว่า ผมเชื่อว่าการติดสินใจของผมนั้นตั้งอยู่บนบรรทัดฐานความยุติธรรมแล้วก็ไม่ได้ลุด้วยอำนาจ พร้อมกับปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญไทยทุกประการ เพราะวันที่เค้าไปประชุมมีการเสนอชื่อ 4 ท่าน ซึ่งแสดงว่าทั้งหมดก็มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกอยู่แล้ว รวมถึงคุณสมบัติและการพิจารณาคือเรื่องอาวุโส ความรู้ความสามารถและความเหมาะสม โดยตรงนี้ก็ให้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และทุกคนก็มีการอภิปรายกันอย่างไม่จำกัด ไม่มีการพูดคุยกัน และมีการโหวตอย่างตรงไปตรงมา 

"ผมก็มั่นใจว่าการกระทำของผมครั้งนั้น ด้วยความชอบธรรมและก็ไม่ได้ลุอำนาจ"

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มีชื่อ ฉัตรชัย พรหมเลิศ หรือปลัดฉิ่ง และพล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ คณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังตำรวจเอี่ยวเว็บพนัน ไปร่วมแต่งตั้งด้วยนั้น นายกฯ ระบุว่า มีการเช็คกับฝ่ายกฎหมายแล้วแม้ว่าทั้ง 2 คน จะอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบชุดดังกล่าว แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะไม่สามารถเข้ามาโหวตในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ได้ พร้อมย้ำว่ามีการตรวจสอบเป็นอย่างดีแล้วและพร้อมที่จะชี้แจง


สร้าง "แอปดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่ได้ใช้งบสูงถึง 1.2 หมื่นล้าน

เศรษฐา กล่าวถึงกรณีเสียงวิจารณ์ประเด็นการจัดทำแอพการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องใช้เงินถึง 12,000 ล้านว่า ยืนยันว่าไม่มีเรื่องตรงนี้ ไม่มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่น รวมถึงไม่มีการจ้างเป็นหมื่นล้านแน่นอน 

เมื่อถามว่า ราคาควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม นายกฯ ระบุว่า น้อยมากไม่เท่าไหร่หรอกครับ ไม่ใช่ประเด็นแน่นอน ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามย้ำว่า มีการวิจารณ์ว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเครือข่ายของเศรษฐา นั้น นายกฯ กล่าวว่า "เครือข่ายของผมนี่คืออะไร บอกชื่อมาเลยได้ไหม บริษัทแสนสิริอะไรอย่างนี้เหรอครับ เค้าไม่ทำแอพแน่นอน บริษัทเอสสปริงที่ผมเคยเป็นกรรมการอยู่ เขาไม่มาเกี่ยวข้องแน่นอน และก็เร็คคอร์ดไว้ได้เลยว่า เขาจะไม่มาเกี่ยวข้องและไม่มารับตรงนี้แน่นอน ไม่มีแน่นอน"

เมื่อถามย้ำว่า การผูกโยงเช่นนี้ถือเป็นการจงใจมากเกินไปหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ไม่เป็นไรครับ ก็เป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องพร้อมสำหรับการชี้แจงและตรวจสอบได้ เพราะเรามีความมั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดีและส่งผลกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม และให้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เป็นการที่เราส่งเงินได้ตรง ไม่มีการหักค่าคอม หรือเบี้ยบ้ายรายทางทั้งสิ้น เรามั่นใจในความโปร่งใสของนโยบายนี้ครับ พร้อมยืนยันว่าก็พร้อม และยืนยันอีกว่านโยบายนี้ไม่มีการเสียภาษีแน่นอน

เมื่อถามว่า การชี้แจงตอบโต้ประเด็นข้อวิจารณ์ต่างๆของรัฐบาลนั้น ช้าไปหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ผมอยากให้แต่งตั้งคณะผู้ชำนาญการขึ้นมาจากหลายๆฝ่าย ที่เห็นตรงหรือต่างบ้าง รวมถึงมีข้อแนะนำเสนอแนะบ้าง เพราะตนอยากให้ทุกคนมีสิทธิ์พูดออกมา ก็ขอให้มีการถกกันให้ดี ส่วนเรื่องที่มีการออกมาช้าออกมาเร็วขอน้อมรับแต่เราไม่อยากพูดอะไรให้มันเร็วเกินไป ซึ่งหากมีประเด็นขึ้นมาตนก็พร้อมตอบ แต่เชื่อว่าหากถึงวันที่พร้อมแล้วในเรื่องการตอบคำถามก็จะหมดข้อสงสัย พร้อมยืนยันว่าทุกๆข้อสงสัยจะถูกนำไปพิจารณา ซึ่งบางอันก็เห็นด้วยหรือบางอันก็นำไปปรับปรุง ฉะนั้นขอความกรุณาเมื่อออกมาก็จะมีการปรับปรุงแต่งเติมเพื่อเป็นนโยบายที่สุด และปราศจากเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ 

ส่วนความชัดเจนของโครงการดังกล่าว ขณะนี้ทางคณะกรรมการก็พิจารณาอยู่ ไม่ต้องห่วงแล้วก็จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้สัมภาษณ์ ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ฉะนั้นต้องให้เกียรติไม่ใช่มาจากคนคนเดียว เพราะหากพูดไปแล้วไม่ตรงก็จะมีปัญหาอีก