ไม่พบผลการค้นหา
สถิติปี 2562 ระบุว่า มีคนพลัดถิ่นทั่วโลกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 50 ล้านคนทั่วโลก และวิกฤตโควิด-19 ระบาดอาจกระทบต่อเงินช่วยเหลือสำหรับผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งและภัยธรรมชาติทั่วโลก

คณะกรรมาธิการผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ของศูนย์เผ้าระวังการพลัดถิ่นภายในประเทศ หรือ IDMC เปิดเผยสถิติประจำปีว่า ภายในสิ้นปี 2562 ทั่วโลกมีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศตัวเองรวม 50.8 ล้านคน ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยจำนวนผู้พลัดถิ่นในปี 2562 มีมากกว่าปี 2561 ถึง 10 ล้านคน

อเล็กซานดรา บิลัก ผู้อำนวยการ IDMC หวังว่า การพลัดถิ่นภายในประเทศจะได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น หลังจากการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติหารือปัญหาผู้พลัดถิ่นและร่วมกันหาทางแก้ไขในระยะยาวในเดือนต.ค. เธอหวังว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการสร้างความตระหนักรู้และเป็นสัญญาณเตือนประชาคมโลกเรื่องผู้พลัดถิ่น แต่เธอเกรงว่า โควิด-19 อาจเบนความสนใจของทั่วโลกไปจากปัญหาผู้พลัดถิ่น

แม้ขณะนี้จะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบของโควิด-19 ต่อการพลัดถิ่น และความพยายามใจการแก้ไขปัญหาผู้พลัดถิ่น แต่งบประมาณช่วยเหลือเรื่องนี้ก็อาจน้อยลง บิลักกล่าวว่า “หากเรากำลังจะดิ่งเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจถดถอย ก็จะต้องกระทบกับเงินช่วยเหลือที่แต่ละประเทศจะบริจาคอย่างแน่นอน ถือเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่มากสำหรับทุกคน”

นอกจากนี้ บิลักยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ เพราะกลุ่มเปราบางเหล่านี้มักจะอยู่กันอย่างแออัดในค่ายผู้พลัดถิ่น ที่พักอาศัยฉุกเฉิน และที่พักชั่วคราวที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขหรือเข้าถึงได้อย่างจำกัด การระบาดของไวรัสโคโรนาจะยิ่งทำให้พวกเขาอ่อนแอลงกว่าเดิม เพราะไม่สามารถเข้าถึงบริการจำเป็นและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต่างๆ ได้ โดยหน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่างๆ เปิดเผยว่า การจำกัดการเดินทางเพื่อลดการแพร่ระบาดของรัฐบาลหลายประเทศส่งผลกระทบต่อการขนส่งความช่วยเหลือไปยังผู้พลัดถิ่น

ด้านข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติหรือ UNHCR ได้ประกาศขอเงินช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น ผู้ลี้ภัย ผู้ขอสถานะผู้ลี้ภัย รวมถึงชุมชนที่รับผู้พลัดถิ่นและผู้ลี้ภัย เพราะชุมชนเหล่านี้ก็ยากจนเช่นกัน โดย UNHCR ย้ำว่า เงินช่วยเหลือนี้มีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะคนเหล่านี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หากหน่วยงานให้ความช่วยเหลือไม่สามารถส่งความช่วยเหลือได้อย่างที่เคยทำ

อย่างไรก็ตาม UNHCR เปิดเผยว่า ขณะนี้ เพิ่งได้รับเงินบริจาคเพียง 58.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,900 ล้านบาท) หรือประมาณร้อยละ 28 ของเงินที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น ผู้ลี้ภัยและชุมชนที่รับผู้พลัดถิ่นในปี 2563 

สถิติของผู้พลัดถิ่น

ภายในสิ้นปี 2562 ทั่วโลกมีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศตัวเองรวม 50.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ มี 45.7 ล้านคนที่พลัดถิ่น หรือกลายเป็นผู้ลี้ภัยภายในประเทศของตัวเอง เพราะหนีความรุนแรงในกว่า 61 ประเทศทั่วโลก และอีกประมาณ 5.1 ล้านคน ใน 96 ประเทศต้องพลัดถิ่นเพราะภัยธรรมชาติ

รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า ผู้พลัดถิ่นที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน โดยเฉพาะบริเวณแอฟริกาซับซาฮารามากที่สุด โดยคนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นออกมาบ้านของตัวเอง หลังจากความขัดแย้งระหว่างโซมาเลียและเซาท์ซูดานรุนแรงขึ้น รวมถึงสถานการณ์บริเวณซาเฮล ซึ่งเป็นรอยต่อที่แบ่งทวีปแอฟริกาเป็นเหนือและใต้ที่รุนแรงขึ้น

พายุฤดูร้อนและมรสุมบริเวณเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และแปซิฟิกก็เป็นสาเหตุให้คนจำนวนมากต้องพลักถิ่น โดยอินเดีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศและจีนต่างก็มีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศอย่างน้อยประเทศละ 4 ล้านคน แม้ส่วนใหญ่พวกเขาจะถูกรัฐบาลสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเอง แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศของตัวเอง เช่น หลังจากไซโคลนอิดาอีและไซโคลนเคนเนธ ยังมีคนมากกว่า 130,000 คนที่ไม่สามารถกลับบ้านได้

นอกจากนี้ บิลักคาดว่า การเก็บข้อมูลและประเมินผู้พลัดถิ่นในปีหน้าจะยากมาก เพราะคนที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลอาจไม่สมารถออกไปเก็บข้อมูลได้ เนื่องจากรัฐบาลจำกัดการเดินทาง และต้องเว้นระยะทางสังคม ดังนั้น ข้อมูลของปี 2563 อาจกลายเป็น “หลุมดำ” 

ที่มา : The Guardian, UNHCR