ไม่พบผลการค้นหา
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โวยกกต.เร่งชงศาลรธน.ชี้ก่อนปิดสำนวน เปิดเอกสารโชว์ ขู่ เอาผิดม.157

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีการยื่นฟ้องคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หัวข้อ “ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ฟันธนาธรไปก่อน แล้วค่อยสืบสวนข้อเท็จจริงทำสำนวนทีหลัง ทำแบบนี้ ก็ได้หรือ” ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. พยานของผม 2 คน ในการโอนหุ้นวี-ลัค ได้รับจดหมายหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ฉบับลงวันที่ 17 พ.ค.62 จากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. (ชุดเดียวกับที่ผมได้ไปให้ถ้อยคำกับ อ.ปิยบุตร เมื่อวันที่ 30 เมษายน) และจดหมายเพิ่งถูกจัดส่งเมื่อวันที่ 21 พ.ค.62

อย่างไรก็ดีนายธนาธร ระบุเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ชุดนี้ เป็นคณะกรรมการที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้ยุติ จึงจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้อง เมื่อคณะอนุกรรมการฯ ลงมติให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้องแล้ว กระบวนการสุดท้าย สำนวนคำร้องจึงจะไปอยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่า จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ต่อไป

ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา กกต. ได้ยื่นคำร้องคดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไปแล้ว ทั้งๆ ที่การสืบสวนไต่สวนข้อเท็จจริงตามสำนวนคำร้องนี้ ยังไม่เสร็จสิ้น หลังจาก กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพิ่งจะเรียกพยานของผมไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนฯ ทั้งๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาความสมบูรณ์ของการโอนหุ้น คำร้องที่ กกต. ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมานี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ คณะกรรมการสืบสวนฯ ยังเรียกสอบพยานอยู่ แต่ กกต. ชุดใหญ่ ท่านลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลไปก่อน มีข่าวว่า วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเกี่ยวกับการรับคำร้อง/ไม่รับ คำร้องที่ยังไม่เสร็จของ กกต. คดีนี้

"8 ม.ค. ผมกลับจากบุรีรัมย์ มาก กทม. โดนใบสั่งอยู่หลายใบ หลายท่านแซวกันว่าคนขับรถของผมเร่งรีบซิ่งเหยียบมิดรีบกลับ กทม. จนเกินไปแล้ว แต่เมื่อเจอกรณีนี้ของ กกต. แล้ว การเหยียบซิ่งของคนขับรถผมกลายเป็นเต่าคลานไปเลย - กกต. ท่านไวกว่า กกต. ท่านยิงไนตรัสด้วย จะรีบไปไหน งานนี้ กกต. ท่านไม่โดน “ใบสั่ง” (ค่าปรับ พ.ร.บ.จราจร) ก็จริงครับ พฤติการณ์ของท่านอาจไม่ขัด พ.ร.บ.จราจร แต่อาจขัด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พรป.กกต. มาตรา 69 ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ " ธนาธร ระบุ