วันที่ 15 ธ.ค. 2565 ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - สหภาพยุโรปฯ ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ว่า วันนี้มีเรื่องอยู่เต็มหัว โดยทั้งหมดเป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องทำและถ่ายทอด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง ใครจะเป็นรัฐบาลก็มาทำเถอะครับ แต่ว่ามันเป็นชนิดที่ว่า พอเริ่มทำกันตอนนี้ก็เล่นงานกันตอนนี้และมันจะไปวันข้างหน้าได้ไหม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนกลับมาจากต่างประเทศจะให้ความชัดเจนหลายเรื่อง วันนี้การเมืองคือการเมือง การบ้านคือการบ้าน ประชาชนคือการบ้าน การเมืองก็คือการต่อสู้ในสภาก็ว่ากันไป เมื่อเลือกตั้งแล้วท่านไปดูเอา ว่าที่พูดกันมา ทำกันมามันทำได้มากน้อยเพียงใด 

"เมื่อถึงเวลานั้นจะได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ผมก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ ก็เสียใจเท่านั้นเอง คำว่าเสียใจคือทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ได้ ไม่ใช่เสียใจเพราะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น เข้าใจนะ อย่าถามกันบ่อย"

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ใครจะไปใครจะมาใครจะลาออกไปอยู่พรรคไหนก็เรื่องของเขา เรื่องของสภา สภาไม่พอ สภาล่มโทษนายกฯ ซึ่งผมก็บอกไปแล้วกำชับทุกพรรคไปแล้วให้ไปร่วมประชุมสภา เขาก็ตอบว่าครับ แต่พอถึงเวลาไปไม่ครบ ก็ว่านายกฯทำไมไม่ควบคุม ตนไม่โทษใคร แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่มีความรับผิดชอบ ทุกคนก็บอกว่านายกฯมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบบ้านเมือง เพราะฉะนั้น ส.ส.ก็มีหน้าที่ของตัวเองในการทำงานในสภาฯ

"เป็นผู้ใหญ่แล้วโตกันหมดแล้ว อีกเรื่องใครจะเข้าใครจะออกพรรคไหน ก็เรื่องของท่าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร"

เมื่อถามว่า เรื่องของนายกฯ ความชัดเจนในการไปพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบด้วยความฉุนเฉียวว่า "อยู่ถึงวันนี้ยังไม่รู้เรื่องเลยหรือไง" 

จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามบอกว่าอยากได้ยินจากปากนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า คิดเอาเองบ้าง เพราะทุกที เวลาสื่อคิดเอาเองเขียนเอาเองสื่อยังคิดได้เลย จากนั้นนายกฯได้เดินออกจากโพเดียม ก่อนกล่าวว่า "เมื่อถึงเวลาก็จะพูดเอง" และเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเดินทางกลับจากต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าที่เคร่งเครียดและท่าทีที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด