สมชาย ปรีชาศิลปกุล และกฤษณ์พชร โสมณวัตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พร้อมคณาจารย์จากคณะต่างๆ และนักศึกษา เดินทางมายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามทวงถามกรณีขอทราบรายชื่อนักศึกษา ที่ถูกออกหมายจับพร้อมกับอานนท์ นำภา ทนายความนักสิทธิมนุษยชน และประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังเข้าร่วมชุมนุมกับแนวร่วมประชาชนปลดแอกเชียงใหม่ ที่ลานท่าแพ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ต.ค.กลุ่มคณาจารย์ มช. ได้เดินทางมาสอบถามและยื่นหนังสือกับ พ.ต.อ.ชัยยุทธ เรืองนภาเพ็ญ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 (ปฏิบัติราชการ สภ.เมืองเชียงใหม่) เพื่อขอทราบรายชื่อนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด หลังกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมชุมนุม เกิดความวิตกกังวลจึงเข้ามาปรึกษากับอาจารย์เพื่อขอความช่วยเหลือ

ขณะที่ตำรวจได้มีหนังสือตอบกลับไปยังคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเนื้อหาหลักระบุว่า ไม่สามาถเปิดเผยรายชื่อนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดได้ เนื่องจากเป็นความลับของทางราชการ และข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับในสำนวนการสอบสวนคดีอาญา จึงไม่สามรถเปิดเผยได้ เพราะจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ 

อย่างไรก็ตามทางอาจารย์สามารถอุธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของทางราชการต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน 15 วัน

ด้าน สมชาย กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อติดตามทวงถามรายชื่อของนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับ เพราะเรื่องนี้ถือว่าสำคัญ โดยเฉพาะกับตัวนักศึกษาซึ่งกำลังอยู่ในช่วงใกล้สอบ และทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับก็เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในครั้งเดียว หากทราบรายชื่อก็จะพาทั้งหมดมาแสดงตัว และทำเรื่องขอประกันตัวในคราวเดียวกันเพื่อต่อสู้คดี โดยยืนยันว่าการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ ในการแสดงความคิดเห็น

ขณะที่ตำรวจได้ทำหนังสือตอบกลับมาเมื่อช่วงเช้า แต่ตนเองเดินทางไปเยี่ยมอานนท์และประสิทธิ์ที่เรือนจำเชียงใหม่ ทำให้เพิ่งทราบข้อมูลว่าตำรวจปฏิเสธการแจ้งรายชื่อนักศึกษาทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะกลับไปหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องการออกหมายจับตำรวจสามารถทำได้ แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การไม่แจ้งหรือแสดงรายชื่อของนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับ มีชีวิตไม่ปกติ โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ และหากถูกจับกุมในช่วงที่กำลังจะไปสอบก็จะกระทบกับการเรียนของนักศึกษา เรายืนยันจะไม่พานักศึกษาหนี เพราะก็คงไม่มีปัญญาเช่นกัน แต่จะพานักศึกษามาแสดงตัวเพื่อต่อสู้คดี