ไม่พบผลการค้นหา
การเบรกวอล์กอินฉีดวัคซีน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงออกถึงการข่ม 'อนุทิน ชาญวีรกูล' เพราะที่ผ่านมา 'อนุทิน' โดนข่มอย่างต่อเนื่อง

การที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ชอบใจ สั่งยกเลิกแผนการวอล์กอิน ฉีดวัคซีน ทำให้เห็นได้ชัดเจนถึงแนวคิด วิสัยทัศน์การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แม้จะเข้าสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ยังคุ้นชินกับรูปแบบการสั่งการเบ็ดเสร็จ เหมือนสมัยเป็นรัฏฐาธิปัตย์

ทั้งที่แผนการเปิดวอล์กอิน เป็นไปตามมติคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่เห็นสมควรยกระจายวัคซีน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม 2.นัดหมายเป็นกลุ่มองค์กร ภาครัฐหรือเอกชน และ 3.การ Walk-in ซึ่งจะเริ่มในเดือน มิ.ย.

ประยุทธ์ โควิด อนุทิน E84832A3-ADA6-43CE-A76C-E7068F441974.jpeg

ด้วยความมั่นใจในแนวทางดังกล่าว ทำให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ประกาศเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2564 ว่าจะเปิดให้ประชาชนวอล์กอิน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป นำมาซึ่งเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ภาคเอกชน และประชาชน ต่างชื่นชมยินดี เพราะถือเป็นแนวทางที่สะดวกกว่าการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันอย่างมาก

แต่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กลับบอกว่า ไม่อยากให้ใช้รูปแบบวอล์กอิน เพราะหากประชาชนแห่กันไปพร้อมกันที่จุดเดียว จะเกิดความชุลมุนขึ้นได้ ในต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ กทม.มีคนจำนวนมาก โดยอยากให้ปรับรูปแบบใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ให้ไปลงทะเบียน ณ จุดที่ตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ สั่งว่า ตอนนี้ให้ยึดแอปปพลิเคชันหมอพร้อมไว้ก่อน ให้คนที่ลงทะเบียนหมอพร้อมและกลุ่มเสี่ยงได้ฉีดก่อน จึงขอให้หน่วยงานไปปรับปรุงและแก้ปัญหาแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่อให้พร้อมใช้ อย่าให้เกิดปัญหาประชาชนลงทะเบียนไม่ได้ จึงอยากให้หยุดพูดเรื่องวอล์กอิน ไปก่อนจนกว่าจะได้มาตรการที่ชัดเจน เดี๋ยวคนวอล์กอิน เข้าไปแล้วไม่ได้ฉีดจะโวยวาย อย่างไรก็ตาม หากวัคซีนเพียงพอหรือเหลือค่อยมาจัดการกันใหม่ เรื่องวอล์กอิน ละเอียดอ่อน ต้องจัดการดีๆ

ประยุทธ์ วัคซีน โควิด อนุทิน 000000.jpg

เรียกว่าหักหน้า “เสี่ยหนู” อย่างเต็มแรง เพราะก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสั่งล้มแผนไม่นาน “อนุทิน” เพิ่งจะยืนยันกับนักข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า พร้อมเปิดวอล์กอิน อย่างแน่นอน โดยไม่คาดคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะหักหน้ากลางวงประชุม ครม.เช่นนั้น

จะว่าไปแล้ว นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ข่ม “อนุทิน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ย้อนไปวันที่ 28 ก.พ.2564 เมื่อครั้งที่อนุทิน ได้เป็นคนแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีน โดย 1 วันก่อนหน้านั้น  ทีมแพทย์สั่งเบรกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะฉีดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปี ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นคนแรกของประเทศไทย ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน จึงทำได้เพียงการไปร่วมเป็นสักขีพยานเท่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่ยอมรับซีนความโดนเด่นของอนุทิน ที่เป็๋นคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้การฉีดวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของการฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ ผมว่าวันประวัติศาสตร์ที่สำคัญกว่านี้คือ วันที่โควิดปลอดจากประเทศไทย"

ประยุทธ์   อนุทิน 13155953000000.jpg

ไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำว่า แม้วันนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของการฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่ง แต่เราก็มีวัคซีนอีกยี่ห้อ ซึ่งประวัติศาสตร์ไม่ได้มีวันเดียว

วันที่ 9 เม.ย.2564 “บิ๊กตู่” ตั้งคณะทำงานพิจารณาจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน โดยมี นพ.ปิยสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ร่วมกับข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข กว่า 18 คน แต่ไม่ปรากฏชื่อของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในคณะทำงานชุดดังกล่าว

วันที่ 27 เม.ย.2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบการโอนอำนาจใน 31 กฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกฎหมายในอำนาจของ รมว.สาธารณสุข และบางส่วนเป็นของ รมว.คมนาคม ให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจสั่งการแต่เพียงผู้เดียว โดยอ้างเพื่อความสะดวกในการสั่งการ เพื่อระงับยับยั้งสถานการณ์ แก้ไขการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ให้มีประสิทธิภาพ 

และประเด็นนี้ ก็ทำให้ถูกมองว่า อนุทิน โดนริบอำนาจ แม้เจ้าตัวจะเปิดใจในภายหลังว่า ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นเลยก็ตาม

ประยุทธ์ ประวิตร คณะรัฐมนตรี ตรีนุช อนุทิน วิษณุ 0_07.jpg

ไม่นานนัก 6 พ.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามแต่งตั้ง คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ส่วน อนุทิน และ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นเพียงที่ปรึกษา

เรื่องนี้ทำให้ถูกมองว่า เป็นการเอาทหารมาแก้ไขปัญหาโควิด ส่วนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกลับโดนแขวน ไม่ให้มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขสถานการณ์

กระทั่งล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ สั่งเบรกวอล์กอิน ฉีดวัคซีน โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็น on site ซึ่งรูปแบบไม่ต่างอะไรกับวอล์กอินที่มีวิธีการปฏิบัติคือ ไปลงทะเบียน ณ จุดบริการฉีดวัคซีน อาจได้รับการฉีดทันทีหากมีวัคซีนอยู่ แต่หากไม่มีวัคซีน ก็ให้นัดหมายมาฉีดในวันอื่นๆ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง