'แอปเปิล' แถลงความร่วมมือระหว่างบริษัทและวาณิชธนกิจโกลด์แมน ซาคส์ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม ในความร่วมมือให้บริการบัตรเครดิตภายใต้ชื่อ 'แอปเปิลการ์ด'
ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการใช้บัตรเครดิตผ่านไอโฟนได้ภายในเวลาไม่กี่นาที เมื่อมีการเปิดให้ใช้บริการบัตรเครดิตจริงในช่วงหน้าร้อนที่จะมาถึง โดยบัตรเครดิตแอปเปิลจะให้บริการเชื่อมกับ 'แอปเปิล เพย์' ระบบการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2557
แอปเปิลยังคงการออกแบบแบบเรียบหรูที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ โดยบัตรเครดิตแอปเปิลที่ใช้วัสดุไทเทเนียมทั้งใบ จะมีเพียงชื่อผู้ถือบัตรที่สลักด้วยเลเซอร์ ปราศจากเลขบัตรเครดิตและข้อมูลสุ่มเสี่ยงอื่นๆ
ข้อเสนอของ 'แอปเปิล'
เจนิเฟอร์ เบลลีย์ ผู้อำนวยการระดับสูงของแอปเปิลกล่าวว่า บัตรเครดิตแอปเปิลเสนอการคืนเงินร้อยละ 2 ในทุกการใช้จ่ายผ่านแอปเปิลเพย์ และคืนร้อยละ 3 ในทุกการใช้งานผ่านบัตรเครดิต ซึ่งข้อเสนอนี้ใช้ได้กับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ผู้ใช้งานสามารถจับการกับการใช้จ่ายและรางวัลผ่านแอปพลิเคชัน 'แอปเปิล เพย์' ได้ อีกทั้งบริษัทจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในทุกๆกรณี ซึ่งระบบจะมีการทดลองใช้กับพนักงานของแอปเปิลและโกลด์แมน ซาคส์ ก่อนมีการใช้งานจริง
"แม้คุณจะจ่ายเงินช้า เราก็ไม่คิดค่าธรรมเนียมกับคุณเหมือนที่ธนาคารอื่นทำ เป้าหมายของเราคือทำให้คุณใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น ไม่ใช่ยากขึ้น" เบลลีย์ กล่าว
การร่วมมือกันให้บริการบัตรเครดิตในครั้งนี้เป็นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท สำหรับแอปเปิล นี่นับเป็นการกระตุ้นรายได้ที่นอกเหนือไปจากการขายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในขณะที่โกลด์แมน ซาคส์ ก็ได้ลูกค้าเข้ามาในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆของบริษัท หลังใช้เวลากว่า 150 ปี ไปกับผู้ลงทุนสถาบัน บริษัท และรัฐบาลต่างๆ
ลูกค้าใหม่อาจไม่สนใจ
ทิม คุก ประธานบริหารของบริษัทแอปเปิล แสดงความมั่นใจว่าบริการด้านบัตรเครดิตของแอปเปิล จะเป็นการปรับเปลี่ยนสำคัญในวงการบัตรเครดิต
"แอปเปิลอยู่ในจุดแตกต่างในการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านประสบการณ์การใช้บัตรเครดิตในรอบ 50 ปี " ทิม กล่าว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหลายคนจะไม่คิดแบบเดียวกับประธานบริหารของแอปเปิล โดยมีการวิเคราะห์เปรียบเทียบว่า บริษัทอย่าง เจ. พี. มอร์แกน และ ซิตี้กรุ๊ป พยายามล่อผู้บริโภคด้วยรางวัลต่างๆมากมายจากการใช้งานทั้งการกินและการท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับการได้เงินคือแค่ร้อยละ 3 หรือร้อยละ 2 ของแอปเปิล ดูจะไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่
คริส ไคเปร์ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยซีเอฟอาร์เอ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการไม่ให้รางวัลอาจะเป็นสิ่งที่ดีกับแอปเปิล แต่ระบบการคืนเงินก็ยังอยู่แค่ 'ระหว่างทาง' เท่านั้น
หากแอปเปิลประสบความสำเร็จในโครงการบัตรเครดิตนี้ ย่อมเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทที่กำลังประสบปัญหาด้านยอดขายในสินค้าหลักอย่างหนัก แต่ถ้าถามว่านี่คือการปฏิวัติอุตสาหกรรมบัตรเครดิตหรือเปล่า คำตอบก็คงจะไม่ใช่