ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง บุกจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับเงินลูกน้อง เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช., ภูมิวิศาล​ เกษมศุข​ เลขาธิการ​คณะกรรมการ​ ป.ป.ท. พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดชผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง​ แถลงต่อสื่อมวลชนสืบเนื่องจาก ป.ป.ช. ได้รับแจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง

โดยมีพฤติการณ์ในฐานะอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ โดยหากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ก็จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา จึงทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือน เพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บ ในอัตราดังกล่าวอีกด้วย

โดยในวันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลาประมาณ 09.10 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปปป. ได้นำเงินสด จำนวน 98,000 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วไปส่งมอบให้กับผู้เสียหาย เพื่อนำไปมอบให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ

และเมื่อได้มีการส่งมอบเงินแก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปยังห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นจุดส่งมอบเงินในทันที พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา โดยได้ตรวจค้นพบว่ามีเงินสดจำนวน 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นอกจากนี้ ยังพบของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบห้าล้านบาท อยู่ในบริเวณห้องดังกล่าว สอบถามแล้วบุคคลดังกล่าวอ้างว่าตนไม่ทราบเรื่องที่มีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ

เงินสดจำนวน 98,000 บาท ดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่า หมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือ ไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวน บก. ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป


'วราวุธ' ตกใจเผยไม่รู้ข้อมูลมาก่อน ไฟเขียวดำเนินคดีตามกฎหมาย

วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.-ป.ป.ป. บุกจับ อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกรับสินบน ว่า เรื่องนี้ตนเพิ่งทราบข่าวในขณะประชุม ครม. รายละเอียดก็ทราบตามข่าวเช่นกัน ส่วนข้อเท็จจริงขอรอปลัดกระทรวงทรัพย์ฯส่งรายละเอียดมาก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกฎหมายมีอย่างไรเราก็ให้เป็นไปตามบทบัญญัติกฏหมาย และระเบียบทางราชการ ก็ขอให้ดำเนินการไปตามนั้น โดยกรณีนี้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) ไม่เคยส่งข้อมูลกรณีดังกล่าวมาให้ แต่ส่งเรื่องอื่นมา ซึ่งเมื่อทราบข่าวตนก็ตกใจเหมือนกัน

เมื่อถามว่า กรณีนี้เป็นการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวง จะดำเนินการอย่างไร วราวุธ กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่ตนเข้ามาได้ย้ำเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ขอให้เป็นไปตามสุจริต แต่เมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้น ก็คงต้องให้ปลัดกระทรวงย้ำกับเพื่อนๆข้าราชการในกระทรวงอีกครั้ง ถึงความโปร่งใสและไม่ให้มีการซื้อขายตำแหน่ง

เมื่อถามว่า ต้องมีการรื้อการดำเนินการโยกย้ายก่อนหน้านี้หรือไม่ วราวุธ ระบุว่า คงต้องว่าไปตามระเบียบและการปฏิบัติของการบริหารราชการ ซึ่งเป็นเรื่องของปลัดกระทรวงที่จะต้องหาแนวทาง และวิธีดำเนินการต่อไป พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ตนไม่สามารถบอกได้ว่าจำเป็นหรือไม่ ขอกลับไปดูระเบียบข้าราชการก่อน

เมื่อถามว่า เคยได้ข่าวเกี่ยวกับอธิบดีคนดังกล่าวหรือไม่นั้น รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ ระบุว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้า ซึ่งตกใจพอสมควร พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ให้ดำเนินการไปตามกฏหมาย ตามเนื้อผ้าว่าผิดถูกอย่างไร