ไม่พบผลการค้นหา
เพื่อไทยชงแบงก์รัฐออก 'สินเชื่อดอกเบี้ยติดลบ' ประคองการจ้างงานภาคท่องเที่ยว สู้พิษโควิด-19 ชี้ระลอกแรกทำเศรษฐกิจไทยทรุดแสนล้าน คาดระลอก 2 ลามห่วงโซ่การผลิต ทำคนตกงาน ฉุดกำลังซื้อนอกภาคท่องเที่ยว

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงแนวทางลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ว่า นี่เป็นความเสียหายระดับแสนล้าน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นผลกระทบระลอกแรก เป็นรายได้ที่ประเทศควรจะได้รับ แต่หายไป แต่ยังไม่รวมถึระลอกสอง ซึ่งมันจะลามไปถึงห่วงโซ่การผลิต และการตกงานของแรงงานภาคท่องเที่ยว ส่งผลตรงต่อกำลังซื้อ ส่งผลต่อไปถึงธุรกิจนอกภาคท่องเที่ยวด้วย


โรคระบาด เป็น "ปัญหาระยะสั้น" ที่รุนแรง แต่ไม่ใช่ปัญหายืดเยื้อเชิงโครงสร้าง การแก้ปัญหาจึงควรเป็น "การหยุดเลือด" ที่รวดเร็ว


นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ตนมองการหยุดเลือดนี้เป็น 2 ขา โดยขาที่ 1 คือ ทำให้เอกชนภาคท่องเที่ยวประคองตัวให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกมาก็พอสมควร เช่น การพักชำระหนี้ ปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน

ขาที่ 2 คือ การป้องกันการเลิกจ้างงานในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งการตกงานเกิดขึ้นแล้ว รวดเร็ว กระทันหัน และกระจายไปในวงกว้างแล้ว เรื่องนี้อันตราย เพราะมันลามไปถึงกำลังซื้อ และลามต่อไปสู่นอกภาคการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งขาที่ 2 นี้ผมมองว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำ 

มาตรการที่ได้ผลในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะในเดนมาร์ก ได้แก่ สินเชื่อดอกเบี้ยติดลบ ในช่วงวิกฤติ 

ข้อเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยติดลบ เป็นการทำเพื่อประคองการจ้างงานภาคการท่องเที่ยว โดยให้ดอกเบี้ยติดลบร้อยละ 0.5 ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีสายป่านสั้น แต่ธุรกิจในระยะยาวยังดีอยู่ มีแรงจูงใจที่จะชะลอการเลิกจ้างงานออกไป เพราะการระบาดนี้เป็นเรื่องชั่วคราว 

โดยสินเชื่อนี้ควรใช้เพื่อการจ้างงานเท่านั้น เพื่อหยุดเลือดไม่ให้ตกงานเพิ่ม ให้ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปก่อนกลับสู่สถานการณ์ปกติ โดยรัฐบาลสนับสนุนส่วนต่างดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น (ซึ่งไม่มาก)


รัฐบาลต้องอย่าปล่อยให้คนตกงานมากกว่านี้ เพราะมันเกี่ยวกับกำลังซื้อ ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจประเทศ



ข่าวที่เกี่ยวข้อง :