เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 มี.ค. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. และ พ.ต.อ.อนันต์ชัย กมลรัตน์ ผกก.สน.ทุ่งครุ กรณีสนธิกำลังตำรวจ กก.ดส.บช.น.และ สน.ทุ่งครุ เข้าตรวจค้นอาคารไม่มีเลขที่ ถนนเลียบทางด่วนวงแหวนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาชายและหญิง รวมทั้งสิ้น 74 คน อายุระหว่าง 18-37 ปี จำนวน 73 คน และเยาวชนชายอายุ 17 ปี จำนวน 1 คน เปิดห้องมั่วสุมดื่มสุรา ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาครอบครองยาเค จำนวน 2 คน หลังมีประชาชนแจ้งเบาะแส ว่าที่อาคารดังกล่าวมักมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวมั่วสุม ตลอดทั้งวันทั้งคืน

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าที่อาคารดังกล่าว ซึ่ง เป็นอาคารชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ ได้เปิดแบ่งเป็นห้องพัก สภาพคล้ายห้องวีไอพี ตามสถานบริการ จำนวน 4 ห้องมาได้สักระยะแล้ว แต่มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมรวมตัว กันในช่วงกลางดึกถึงสว่างอยู่บ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านในละแวกเดียวกัน เนื่องจากมีรถวิ่งเข้าวิ่งออกตลอดทั้งคืน

จากนั้น กก.ดส.บช.น. จึงได้ร่วมวางแผนกับเจ้าหน้าที่ สน.ทุ่งครุ เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น เมื่อช่วงตีสามที่ผ่านมา พบกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงรวม 74 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนชาย 1 คน อายุเพียง 17 ปี เปิดเพลงเต้นรำ และมั่วสุมดื่มสุรา กันในห้อง ทั้ง 4 ห้อง ของอาคารดังกล่าว อย่างเมามัน

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีผู้ต้องหา 2 ราย ครอบครองยาเสพติดซุกไว้ตามร่างกาย ถูกจับได้พร้อมของกลาง เคตามีนชนิดผง น้ำหนักรวม 3.4 กรัม และ 2.47 กรัม เบื้องต้น จึงแยกตัวผู้ต้องหา 2 รายนี้ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ แจ้งข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (คีตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนผู้ต้องหาชายหญิงอีก 71 ราย รวมถึงเยาวชนชาย อีก 1 คน ถูกแจ้งข้อหา รวมตัวฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน 2548 และ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามความในมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับสถานที่ดังกล่าวซึ่งไม่มีเลขที่ แต่จัดแต่งสถานที่ให้เป็นห้องเช่าสำหรับการรวมตัวมั่วสุมดื่มสุรา และรวมตัวมั่วสุมฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ในครั้งนี้ ตามแนวทางสืบสวนทราบว่า มีเอเย่นต์ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ย่านฝั่งธนบุรี มารวมหุ้นสร้างสถานที่และตกแต่งห้องพักเอาไว้ หลังจากนี้จะทำการขยายผลหาตัวเจ้าของที่ดิน และเจ้าของอาคารตัวจริงด้วยเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป