ไม่พบผลการค้นหา
องค์การอนามัยโลกเตือน ยุโรปอาจได้เห็นจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 500,000 รายใน 3 เดือน หลังกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดโควิดอีกครั้ง เยอรมนีพบการติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดมา ขณะที่ลัทเวียตัดสินใจประกาศล็อกดาวน์เป็นประเทศแรกในยุโรป

แม้ยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วเป็นวงกว้าง แต่ขณะนี้ตัวเลขของจำนวนผู้ติดเชื้อกลับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงและรุนแรงขึ้นในยุโรปตะวันออกซึ่งมีสาเหตุมาจากความลังเลในการรับวัคซีนของประชาชน โดย CNN ชี้ว่าหากอ้างจากรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อยุโรป (ECDC) อัตราการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมนั้นลดต่ำลงมากกว่า 24% 

ลัทเวีย กลายเป็นชาติแรกในยุโรปที่กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น โดยประชาชนได้รับวัคซีนครบโดสแล้วคิดเป็นอัตราส่วนประชากร “เพียงแค่” 56% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยน 74.6% ของสหภาพยุโรป ขณะที่ประเทศเยอรมันนีพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงที่สุดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19

ฮานส์ คลูช ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรปกล่าวว่า สถานการณ์ความรวดเร็วในการระบาดอยู่ในระดับที่น่ากังวลอย่างมาก และขณะนี้ “เราได้กลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว”

“จากการคาดการณ์ที่น่าเชื่อถือพบว่า หากอัตราการระบาดยังคงสูงขึ้นในลักษณะที่รวดเร็วตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เราอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 500,000 คนในภูมิภาคเอเชียกลางและยุโรปภายในวันที่ 1 ก.พ.ปีหน้าก็เป็นได้” คลูชกล่าว พร้อมย้ำว่า 43 จาก 53 ประเทศที่เขากำลังดูแลขณะนี้อาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนเตียงโรงพยาบาลที่รุนแรงในไม่ช้า

ในรายงานฉบับล่าสุดของ WHO มีการเปิดเผยตัวเลขมาด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 6% ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับอัตราการติดเชื้อใหม่ของภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตัวเลขที่คงที่หรืออยู่ในแนวโน้มที่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง

เท่านั้นยังไม่พอผู้เชี่ยวชาญหลายท่านกล่าวเตือนอีกด้วยว่าในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ภูมิภาคยุโรปต้องเผชิญกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดคูณสอง เนื่องจากเป็นฤดูของการระบาดของไข้หวัดประจำปี ซึ่งเมื่อมาควบรวมกับสถานการณ์ของโควิด-19 ที่กำลังรุนแรงมากขึ้นบุคลากรทางการแพทย์ในยุโรปกำลังมีความเสี่ยงสูงอย่างมากที่จะต้องเผชิญกับหายนะในการรับมือกับผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง