เกาหลีใต้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) แม้เพิ่งเผชิญการระบาดรุนแรงของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยผลการนับคะแนนที่เกือบเสร็จสิ้นชี้ว่า พรรคประชาธิปไตยของประธานาธิบดีมุนแจอิน คว้าไปได้ 163 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่งในรัฐสภา และคาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะคว้าไปได้ 17 ที่นั่ง ทำให้ฟากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลของประธานาธิบดีมุนแจอินจะมีผู้แทนรวม 180 ที่นั่งในรัฐสภา เป็นการกวาดชัยชนะไปได้อย่างท่วมท้น
ขณะที่คาดว่าพรรคยูไนเต็ดฟิวเจอร์ พรรคการเมืองฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยมที่ขับเคี่ยวกันมาจะคว้าไปได้ 103 ที่นั่ง โดยรายงานระบุว่านี่เป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองเอียงซ้ายสามารถกวาดเสียงส่วนใหญ่ไปได้สำเร็จ ขณะที่จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ออกมาลงคะแนนครั้งนี้อยู่ที่ร้อยละ 66.2 สูงกว่าการเลือกตั้งสภารัฐสภาทุกครั้งที่จัดขึ้นในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2535
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองเป็นการทำประชามติต่อการจัดการวิกฤตไวรัสระบาดของรัฐบาลประธานาธิบดีมุนแจอิน เพราะไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ทั้งข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางมิชอบและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวถือเป็นปัญหาที่น่ากังวลของประธานาธิบดีมุนแจอิน รวมทั้งถูกนักวิจารณ์ถึงนโยบายสายพิราบของผู้นำเกาหลีใต้ต่อเกาหลีเหนือว่าไม่ยึดโยงกับความจริง แต่การที่เกาหลีใต้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ค่อนข้างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถส่งออกชุดตรวจไปให้อย่างน้อย 20 ประเทศ ก็ช่วยเพิ่มความนิยมต่อประธานาธิบดีมุนแจอินและความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ รายงานระบุว่าประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวานต้องรักษาสุขอนามัยและเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด โดยต้องใช้เจลล้างมือ สวมหน้ากากและถุงมือพลาสติก ยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และต้องถูกวัดอุณหภูมิร่างกาย โดยคนที่วัดอุณหภูมิได้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปต้องไปลงคะแนนในคูหาที่แยกออกไป ซึ่งหลังใช้สิทธิเรียบร้อยก็จะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อคูหาทุกครั้งที่มีการใช้งาน
โดยจนถึงตอนนี้เกาหลีใต้มีผู้ที่ถูกกักตัวจากโควิด-19 อยู่ประมาณ 60,000 ราย ขณะที่ประมาณร้อยละ 26 ของประชากรได้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วทั้งทางไปรษณีย์และลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่จัดขึ้นล่วงหน้าในศูนย์กักตัวเมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งเข้มงวดที่ให้ลงคะแนนได้ในเวลาที่กำหนดและที่หน่วยเลือกตั้งซึ่งกำหนดเอาไว้เป็นพิเศษ รวมถึงยังถูกห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยได้รับอนุญาตให้เดินไปหรือใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น โดยรายงานระบุว่าที่ผ่านมาเกาหลีใต้ไม่เคยเลื่อนการเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว