เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม ภาคีนักศึกษาศาลายาจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ภายใต้แฮชแท็ก #ศาลายาแสกหน้าเผด็จการ บริเวณด้านหลังอาคารสิริวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหิดล ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีเจ้าหน้าที่จากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw) มาตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย
โดยก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ เรื่อง มาตรการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ลงนามโดย นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยลัยในการจัดกิจกรรม และแจ้งด้วยว่า หากมีการกระทำการโดยแอบอ้างชื่อมหาวิทยลัยมหิดล เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะที่ ภาคีนักศึกษาศาลายา ยืนยันที่จะจัดกิจกรรมตามกำหนดการโดยมีการร่วมกันชูสัญลักษณ์สามนิ้วระหว่างเคารพธงชาติเมื่อเวลา 18.00 น. และบางช่วงการปราศรัยที่ให้ผู้ชุมนุมร่วมกันชูสามนิ้ว เพื่อให้กำลังใจแก่เด็กนักเรียนที่ต่างแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทั่วประเทศในขณะนี้
จากนั้นแกนนำภาคีนักศึกษาศาลายา อ่านแถลงการณ์ประกาศจุดยืนในการเคียงข้างประชาชนที่มีใจรักประชาธิปไตยทุกคน และถึงเวลาที่จะต้องทวงอำนาจอธิปไตยและเสรีภาพกลับคืนมา พร้อมย้ำ "3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน 1 ความฝัน" ของขบวนการคนรุ่นใหม่ คือ หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่, ยุบสภา กับต้องไม่มีการรัฐประหารและไม่จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และความฝันคือ ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
โดยนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวปราศรัยเรียกร้องให้สถานศึกษาเปิดพื้นที่ให้นักเรียนนิสิตนักศึกษาได้แสดงออกทางการเมือง และขอให้ผู้มีอำนาจรัฐ หยุดคุกคามประชาชน ให้สมกับ ประเทศที่จะเรียกได้ว่าปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย
ด้าน สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ผลผลิตจากรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้ได้รัฐบาลสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ที่ล้มเหลวในการบริหารประเทศ ออกนโยบายเอื้อประโยชน์แก่เจ้าสัวไม่กี่ตระกูลให้ผูกขาดทางเศรษฐกิจได้เบ็ดเสร็จยิ่งขึ้น ขณะที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะเกษตรกรต้องเผชิญกับราคาพืชผลที่ตกต่ำไม่ได้รับการเหลียวแล รวมถึงมีคนต้องตกงานจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลอดการครองอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ต่อเนื่องมาจากการรัฐประหาร 2557 ทำให้ประเทศไทยมีปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมรุนแรง ล่าสุดมีทายาทบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังที่หลุดคดี จนเป็นเรื่องอื้อฉาว และมีการคุกคามผู้เห็นต่าง ไม่เว้นแม้แต่นักเรียนและเยาวชน
สมยศ ย้ำว่า ตนและฝ่ายประชาธิปไตยไม่ต้องการให้ประเทศไทยตกอยู่ใต้อำนาจของเผด็จการและทิ้งปัญหาไว้ให้ลูกหลานในอนาคต ซึ่งปัญหาของประเทศชาติวันนี้ ตกเป็นภาระของเยาวชนนักเรียนนิสิตนักศึกษา หลังจากคนรุ่นก่อนได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและถูกปราบปรามในยุค 6 ต.ค. 2519 จึงขอให้คนหนุ่มสาวใช้พลังแห่งความคิดและสติปัญญา ออกมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน เพื่อกำจัดเผด็จการให้หมดไปและให้มันจบที่รุ่นของเรา ตามคำขวัญของคนรุ่นใหม่ ที่ได้ร่วมกันประกาศออกมา
ด้าน อาทิตยา พรพรม แกนนำภาคีนักศึกษาศาลายา ปราศรัยตอนหนึ่งโดยเปรียบเทียบปัญหาของประเทศภายใต้การปกครองของเผด็จการ ว่าเหมือนกับร่างกายมนุษย์ที่เป็นโรคมะเร็ง และผู้ปรารถนาดี เปรียบเป็นแพทย์ที่จะทำการรักษา และแม้มีแพทย์อาวุโสบางคนหรือบางกลุ่มไม่เห็นด้วยที่จะต้องก้อนเนื้อร้ายออกไป เพราะกลัวว่าผู้ป่วยจะรับความเสี่ยงไม่ไหว แต่ผู้รักประชาธิปไตย ยืนยันว่าจะต้องตัดเนื้อร้าย ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาชีวิต
อาทิตยา กล่าวด้วยว่า สถานศึกษาต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยและต้องสนับสนุนการแสดงออกของนักเรียนนักศึกษา ขณะที่คำขวัญของนักศึกษามหิดลที่ว่า "ปัญญาของแผ่นดิน" นั้น หากผู้บริหารไม่ให้นักศึกษาใช้ปัญญา จะเรียกว่า ปัญญาของแผ่นดินได้อย่างไร พร้อมยืนยันว่า การรวมตัวของนักศึกษามหิดลวันนี้ แสดงออกชัดเจนถึงการจะเป็นปัญญาของแผ่นดิน ซึ่งจะใช้สติปัญญาของตัวเองในการคิดและแสดงออก ไม่ใช่ใช้ปัญญาของคนอื่นนำทางหรือเดินตามความคิดความเชื่อของใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง