พรรครีพับลิกันคว้าที่นั่งสำคัญในสภาผู้แทนราษฎรที่ 218 ที่นั่ง แย่งชิงอำนาจจากพรรคเดโมแครต และเตรียมเปิดฉากประลองกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านวาระทางกฎหมายในอีก 2 ปีข้างหน้า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศของไบเดน
ชัยชนะของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นจุดสิ้นสุดของวาระการทำงานของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรชุดเดิมมีเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตควบคุมอยู่ โดยมีแนวโน้มว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะส่งต่อไปยัง เควิน แมคคาร์ที จากพรรครีพับลิกัน ที่เพิ่งคว้าเสียงข้างมากมาแทน โดยแมคคาร์ทีเองแสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่า ตนต้องการจะรับตำแหน่งดังกล่าว
การควบคุมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นสิ่งสำคัญในการเมืองสหรัฐฯ เนื่องจากจะทำให้พรรครีพับลิกันสามารถเริ่มการสอบสวนของรัฐสภา ได้ตั้งแต่การถอนทัพสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานอย่างไม่เรียบร้อยของไบเดน ไปจนถึงการสอบสวนทางการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และกิจกรรมทางธุรกิจของ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันควบคุมได้ มีแนวโน้มที่จะเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว เนื่องจากตัว ส.ส.ที่ถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจะไม่ลงมติสวนกระแสพรรครีพับลิกันในสนามการเลือกตั้งกลางสมัย สามารถคว้าชัยเข้ามามีที่นั่งในภาผู้แทนราษฎรได้จำนวนมาก
กรณีดังกล่าวส่งผลให้มี ส.ส.ไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะลงมติขัดขวางการออกกฎหมายใดๆ และมันจะยิ่งมอบอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกือบทุกคน ในการลงมติใดๆ แต่ละครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น พรรครีพับลิกันยังได้ ส.ส.ตัวสุดโต่งอย่าง มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน จากมลรัฐจอร์เจีย ซึ่งเธออาจก่อความโกลาหลและการส่งเสริมความเชื่อและมาตรการสุดโต่งในรัฐสภาได้ ทั้งนี้ กรีนมีแนวคิดขวาสุดโต่ง คลั่งผิวขาว และต่อต้านยิว
ไบเดนและพรรคเดโมแครตเข้าสู่วันเลือกตั้ง โดย ส.ส.ส่วนใหญ่คาดหวังว่า ตนจะได้รับเสียงถล่มทลายจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ยังมีความโกรธเคืองจากประชาชนในเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งสร้างความทุกข์ยากให้กับชาวสหรัฐฯ หลายล้านคน ที่ต้องดิ้นรนกับการจ่ายหนี้และราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้เสียงโหวตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากการรณรงค์เรื่องความกลัวต่ออาชญากรรมรุนแรง และความพยายามในการแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พรรคเดโมแครตเป็นนักการเมืองที่อยู่ห่างไกลจากการรับรู้ถึงความกังวลของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตสามารถโต้กลับพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางสมัย โดยพรรคชี้ให้เห็นถึงลักษณะแนวคิดหัวรุนแรงของนักการเมืองพรรครีพับลิกันหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนขวาจัด ที่ได้รับการสนับสนุนจาก โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี และเตือนถึงภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ที่มีพวกตนเป็นตัวแทนราษฎร พรรคเดโมแครตยังได้รับแรงหนุน จากการสูญเสียสิทธิการทำแท้งของรัฐบาลกลาง ที่ถูกพรากไปโดยศาลสูงสุด ซึ่งมีตุลาการหัวอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมาก
ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ออกมาค่อนข้างน่าประหลาดใจ เนื่องจาก ส.ส.ของพรรคเดโมแครตสามารถคว้าเสียงในภาพกว้างของประเทศ และบางส่วนเล็กน้อย อาทิ มลรัฐฟลอริดา ในขณะที่ ส.ส.จากพรรครีพับลิกันหลายมลรัฐสามารถเอาชนะ อดีต ส.ส.จากพรรคเดโมแครตที่ตนเคยพ่ายแพ้ไปในการเลือกตั้งครั้งก่อนได้ อย่างไรก็ดี ผู้ลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ตัวเต็ง ที่มีทรัมป์ให้การสนับสนุนอย่าง เมห์เมต ออซ และ ดัก มาสตรีอาโน จากมลรัฐเพนซิลเวเนียกลับประสบกับความพ่ายแพ้
ในขณะเดียวกัน ผลงานของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางสมัยระดับวุฒิสภา กลับออกมาย่ำแย่กว่าสภาผู้แทนราษฎร และย่ำแย่ลงกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน โดยพรรคเดโมแครตยังคงควบคุมเสียงในวุฒิสภาได้ หลังจาก ส.ส.ของพรรคตนในมลรัฐเนวาดา ถูกคาดการณ์ว่าเป็นผู้ชนะในวันเสาร์หลังคืนการเลือกตั้ง โดยในตอนนี้ ที่นั่ง ส.ว.ที่เหลืออยู่ สำหรับการคว้าชัยในมลรัฐจอร์เจีย จะถูกตัดสินโดยเด็ดขาดระหว่างผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันจากพรรคเดโมแครตอย่าง ราฟาเอล วอร์นอก และผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันอย่าง เฮอร์สเชล วอลเกอร์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค. หลังจากที่ไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกิน 50%
หากวอร์นอกชนะ พรรคเดโมแครตจะได้รับเสียงข้างมาก 1 ที่นั่งเป็น 51 ต่อ 50 ในวุฒิสภาที่ทั้งหมดมี 100 ที่นั่ง ซึ่งถึงแม้จะเป็นตัวเล็กเพียงเล็กน้อยจากอัตราส่วน 50 ต่อ 50 ก่อนการเลือกตั้งกลางสมัย อย่างไรก็ดี คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะประธานวุฒิสภาสหรัฐฯ จะยังคงเป็นผู้ลงมติตัดสินชี้ขาดสำหรับพรรคเดโมแครตในบทบาทเดิมบนวุฒิสภาของประเทศต่อไป
ที่มา: