วันที่ 26 ส.ค. 2564 อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดแคมเปญ “ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์” ผ่าน https://www.change.org/prayutgetout ที่ได้ชวนให้พี่น้องประชาชนที่ไม่ทนกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม และพวกอีก 5 คน ร่วมลงชื่อเพื่อแสดงพลังคนไทยทั่วประเทศในการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ลงสู่อำนาจ คู่ขนานไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ โดยหลังจากพรรคเพื่อไทยเปิดตัวกิจกรรมไป 24 ชั่วโมงพบว่ามีผู้ลงชื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ร่วม 20,000 คนแล้ว โดยในจำนวนนี้เป็นประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากที่สุด รองลงมาเป็น ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศไม่อาจรับได้กับการมีอยู่ของนายกรัฐมนตรีคนนี้อีกต่อไป เพราะไร้ซึ่งความสามารถทุกด้าน หมดแล้วซึ่งอำนาจความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำประเทศ
ทั้งนี้ แคมเปญนี้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นว่าทุกเสียงของพี่น้องประชาชนมีความหมาย และเป็นการแสดงออกของประชาชนในการร่วมยืนหยัดอย่างแข็งขันในการตรวจสอบซักฟอก ร่วมกันเช็คบิลรัฐบาลที่โอหัง คลั่งอำนาจ ไร้ภูมิปัญญา ล้มเหลวซ้ำซาก ปล่อยประชาชนล้มตายและยากจน
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากนี้ไปจะมีการรณรงค์และเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในหลากหลายกิจกรรมคู่ขนานไปพร้อมกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาอย่างต่อเนื่อง เช่น การแต่งกายด้วยชุดดำ การผูกริบบิ้นสีดำที่รถที่ใช้ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนของ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทย การเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ด้วยเฟรม “ไล่ประยุทธ์” ในโซเชียลมีเดียของ ส.ส. ผู้สมัคร ส.ก.และสมาชิกพรรค รวมทั้งขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์แคมเปญที่บริเวณที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อสะท้อนพลังทางสังคมที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ แคมเปญ “ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์” ได้มีผู้มีชื่อเสียงร่วมด้วยมากมาย อาทิ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) ลักขณา ปันวิชัย (คำ ผกา) ธีรัตถ์ รัตนเสวี และวิโรจน์ อาลี ผู้ดำเนินรายการและนักวิเคราะห์ สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ (อ๊อฟ- ชัยนนท์) ผู้ดำเนินรายการ The Standard now และอินฟลูเอนเซอร์หลายราย เช่น ถือแถน ปีใหม่ ไร่ยอง เข้าร่วมรณรงค์และแชร์แคมเปญนี้ด้วย
อรุณี ยังได้กล่าวถึงกรณีที่คนในฝั่งของรัฐบาลบอกว่าการออกแคมเปญลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ของพรรคเพื่อไทยไม่เหมาะสม และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้เพราะความเชื่อมั่นและความศรัทธาของประชาชนนั้น ยิ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่รับฟังเสียงของประชาชน แม้จะท่องไว้ในใจเสมอว่าตนเองนั้นมาจากการเลือกตั้ง แต่เนื้อแท้นั้นไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอยู่ในหัวใจ เพราะหากมีความเป็นประชาธิปไตยจริง เสียงของประชาชนทุกคนย่อมมีความหมายเสมอ