เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เวลา 14.00 น. 7 พรรคฝ่ายค้านจัดงานเสวนาพลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยมีประชาชนในพื้นที่เกือบพันคนมาฟัง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวที่มาและวัตถุประสงค์ของงาน จากนั้นนายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส. ปัตตานี พร้อมด้วย ส.ส. พรรคประชาชาติ กล่าวต้อนรับ ก่อนที่ครอบครัวของนายอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงชาวจังหวัดปัตตานี ที่เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัว มอบหนังสือร้องเรียนให้ 7 พรรคฝ่ายค้านทวงถามความยุติธรรมให้กับนายอับดุลเลาะห์
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวเกิดการเสวนา ว่า พวกเราทั้ง 7 พรรคอยากเสาะหาข้อมูล ความคิดความอ่าน และปัญหาของพี่น้องประชาชนเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง ตั้งแต่ที่เรามีการเลือกตั้งเป็นต้นมา ได้ผู้แทนราษฎร แต่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อให้เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้เลย นี่คือความผิดเพี้ยนของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมา
ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องหาคนออกมาพูด มาบอกกล่าว เราต้องมั่นคง และหาแนวทางในการแก้ไข อย่างพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่แสดงจำนงในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 60 แบบเททั้ง 3 จังหวัด เราเองเสียอีกที่กลับเป็นคนมีความรู้สึกช้า และไม่สามารถอธิบายถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญได้แบบที่ผู้ใหญ่ใน 3 จังหสวัดชายแดนภาคใต้ได้ เพราะขณะนั้นมีทั้งกฎอัยการศึก และมีทั้งกฎต่างๆ ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลยสำหรับการรณรงค์ หรือการจัดเวทีดีเบตเรื่องรัฐธรรมนูญในพื้นที่ต่างๆ รัฐบาล และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหาเสียงอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ได้คะแนนเสียงมาเพียง 15 ล้านกว่าเสียงเท่านั้น จากนี้ตนจึงอยากฝากพวกท่านในฐานะแม่บทในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญผลักดันให้รัฐบาลมีแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ต่อไปคิดว่ารัฐบาลจะใจกว้างเปิดทำประชามติ ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ถล่มทลายไปทั้งประเทศ
รฐน.60 ให้อำนาจองค์กรอิสระมากไป
ผศ.ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ นักวิชาการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจกับองค์กรอิสระมากกว่าองค์กรที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งลดอำนาจองค์ที่มาจากการเลือกตั้งในหลายลักษณะ จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ต้องมีการพูดคุยให้เกิดอำนาจอธิปไตยให้โอบรับความยืดหยุ่นของสังคมได้ และมีพื้นที่ให้ถกเถียงการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม และอาจจะเปิดพื้นที่ให้เสรีพอในการถกเถียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 1
ประชาชนต้องมีส่วนร่วม
อาจารย์อสมา มังกรชัย คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า การเลือกตั้งแบบใหม่ที่ทำให้ประชาชนเหลือเสียงเดียว คือเลือกพรรคและเลือกเขต ทำให้เกิดรัฐบาลผสม ไทยจึงสูญเสียการแข่งขัน ไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง และไม่มีรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาทางปากท้องให้เราได้ วิธีคิดแบบทหารอาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่นี้ คนที่นี่ไม่มีปัญหาเรื่องภาษา วัฒนธรรม ศาสนา ฯลฯ แต่ปัญหาใหญ่ๆ คือปัญหาของความยุติ คือ รู้สึกว่าตัวเองถูกกระทำ ถ้าโครงสร้างในสังคมส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากความยุติธรรม ส.ว. ไม่ได้เลือก ถอดถอน ส.ว. ส.ส. ก็ไม่ได้ ตนคิดว่าการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ จะทำให้ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันและไม่ถูกแบ่งแยก
นายรักชาติ สุวรรณ เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า กฎหมายพิเศษมันมีไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐทำงาน แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น คนในพื้นที่ไม่ได้กลัวกฎหมาย แต่คนในพื้นที่กลัวผู้ถือกฎหมาย พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตกเป็นเหยื่อมา 15 ปี ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ถูกซ้อมทรมาน แต่คือทุกคนที่อยู่ด้วยความไม่สบายใจ อยู่ด้วยความหวาดระแวง พอมีเหตุการณ์ชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิมก็ไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่ของกันและกัน ดังนั้นรัฐบาลต้องเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุย
นายมุข สุไลมาน เหรัญญิกพรรคประชาชาติ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ออกมาเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนหรือบ้านเมือง แต่ออกมาเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและวางกับดัก ป้องกันฝ่ายตรงข้าม ใครเข้ามาก็บริหารไม่ได้ ยกเว้นคุณคนนั้นจะอยู่เหนือกฎหมาย อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญก็อยู่ได้ แถลงนโยบายรัฐบาลไม่ชี้แจงงบประมาณก็ยังอยู่ได้ทั้งที่ผิดกฎหมาย
ตนสับสนว่าศาลสองศาลให้ความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ไม่เหมือนกัน อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องยาก ถือเป็นกับดัก เพราะต้องได้เสียงยอมรับจาก ส.ว. ทำให้ฝ่ายค้านต้องเดินทางไปทุกภาคของประเทศเพื่อไปทำความเข้าใจ อาศัยมวลชนเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ดังคำที่พระเจ้าบอกว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถ้าประชาชนกล้าที่จะออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงก็จะทำได้ ขณะเดียวกันก็ต้องมี พ.ร.บ.พหุวัฒนธรรม เพื่อให้ทุกคนทุกลกุ่มมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่อย่างนั้นคนจะตายฟรีเหมือนบิลลี่ และอับดุลเลาะห์
สงบเพราะความกลัว
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า ส.ว.ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญว่าให้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย แต่จะเป็นได้อย่างไรเมื่อมาจาก คสช. เลือก และไม่ปราศจากการขัดกันของผลประโยชน์ นี่คือหนึ่งในหลายประเด็นที่ควรได้รับการแก้ไขในรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าความขัดแย้งมันมาจากการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ บางคนทำดีที่สุด แต่อยู่ไม่ได้ แต่บางคนทำไม่ดีแต่อยู่ได้ ความสงบไม่ได้มาจากความบริสุทธิ์ แต่มาจากความกลัว กลัวผู้ถือกฎหมาย เอากฎหมายไปเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเอง องค์กรอิสระที่มีหลายองค์กรเพื่อคานอำนาจกัน แต่ทุกองค์กรมี พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจอยู่เหนือ อย่างไรก็ตามควรแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม แล้วจะเกิดการกระจายรายได้ และการลงทุน
แก้ รฐน.พร้อมเศรษฐกิจได้
พล.อ.ภราดร พัฒนภาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนกลับมาเป็นหัวหอกแล้วจูงใจพี่น้องประชาชนทั้งชาติร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่เป็นปัญหาของคนในชาติจะหายไปจากการแก้ไขกฎหมาย
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ไม่ใช่การแก้ไขของ 7 พรรคฝ่ายค้าน แต่ต้องเป็นประชาชนทุกคนร่วมกันแก้ เราไม่เคยพูดรายละเอียดว่าจะแก้จุดไหน แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมว่าจะแก้ตรงจุดไหน เพราะทุกคนมีสิทธิความเป็นคนเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ควรแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก่อน แต่ตนขอถามกลับว่าอยู่มาตั้งนานทำไมไม่แก้ อีกทั้งการแก้กฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ขอประชาชนอย่างไปหลงทาง แก้ไปพร้อมๆ กันได้
นายสมพงษ์ สระกวี ผู้แทนพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า คนสามจังหวัดรู้ว่าสิทธิ เสรีภาพ ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรี มีค่ามากกว่ากปากท้อง รัฐบาลไม่ต้องมาหลอกต้ม ดังนั้นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังสร้างความมหัศจรรย์ไม่รับรัฐธรรมนูญ ฉบับเฮงซวยนี้ ทั้งที่ติด 1 ในสิบลำดับของจังหวัดที่มีความยากจน ทั้งนี้ควรเอาทหารออกไป ยกเลิกกฎอัยการศึก และยกระดับราคายางพารา สามารถทำได้ไปพร้อมๆ กัน
รฐน.60 พาสังคมไทยสู่ทางตัน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความจำเป็นและเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างคือ การลงทะเบียนซิมการ์ดโดยต้องถ่ายภาพของใบหน้าและลายนิ้วมือของเจ้าของ ถ้าไม่ทำก็จะใช้ซิมไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. นี้ ถือเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 36 คำถามคือทำไมประเทศนี้ถึงมีคนที่ทำผิดฏฎหมายแล้วไม่ถูกลงโทษ ถ้าเป็นพวกตนเป็นรัฐมนตรีและออกกฎหมายแบบนี้บ้างก็คงติดคุกไปแล้ว เหตุมันมาจากกฎหมายในประเทศนี้ให้อำนาจของคนกลุ่มหนึ่งอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ
ความรุนแรงตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันนี้ เราไม่เห็นสถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้คลี่คลายขึ้น หลายคนเรียกร้องให้มีการปกครองแบบพิเศษ ตนเห็นว่าเชียงใหม่ อุดร หรือจังหวัดต่างๆก็พิเศษ มีความงดงามและหลากหลายเป็นของตัวเอง แต่รัฐที่แข็งทื่อ พยายามเอากฎเกณฑ์แบบเดียวมาบีบบังคับให้ปฏิบัติไปในทางเดียวกัน 3 ปีที่ผ่านมาเราใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสามแสนล้านบาทและปีล่าสุดใช้งบประมาณไปหนึ่งหมื่นกว่าล้านบาท แทนที่จะเอางบประมาณมาทำให้ชีวิตคนมีความมั่นคงมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น ถ้าเอามาให้พวกตน ป่านนี้พัฒนาสามจังหวัดไปไกลกว่านี้แน่
หลังการทำรัฐประหารปี 2557 ไม่มีการเคลื่อนตัวทางสังคม มีแต่การใช้กำลังทหาร มองประชาชนเป็นศัตรู ปราบปรามให้สิ้นซาก และไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาที่นี่ได้ เหตุการณ์เสียชีวิตที่เกี่ยวกับคดีความมั่นคงทั้งหมดที่ผ่านมา ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดต้องรับผิดชอบเลย ถ้าไม่มีความเป็นธรรม ใช้แต่มาตรการทางทหาร ใช้แต่มาตรการความมั่นคง เราต้องกลับมาคิดใหม่ว่าใช้แกนกลางคือกระบวนการสันติภาพ โดยใช้กระบวนการการทูต และเศรษฐกิจมาเป็นตัวช่วย และใช้มาตรการความมั่นคงมาช่วยเหลือ ไม่ใช่แกนกลาง ถ้าสังคมไทยยังไม่มีการแก้ไขว่าใครเป็นเจ้าของอำนาจ ประชาชนควรมีอำนาจในการกำหนดอนาคตของตัวเอง แต่รวมอำนาจไปอยู่ที่กรุงเทพฯ กดขี่พี่น้องประชาชนทุกจังหวัด
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกหัว คุณประยุทธ์ ชนะ ออกก้อยให้ประชาชนแพ้ ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีข้อตกลงที่ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ ควรจะเป็นกติกาที่ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างหลากหลาย และไม่มีข้อตกลงที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน แต่ตอนนี้ไม่มี และมันจะพาสังคมไทยไปสู่ทางตัน ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาคุยกัน แม้จะเห็นต่างกัน แพ้ชนะก็ยังมีกติการ่วมกัน ไม่ต้องรัฐประหาร ไม่ต้องลงถนน การรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญเป็นทางออกทางเดียวของประเทศไทย จนกว่าอำนาจจะเป็นของประชาชน ไม่ใช่คนกลุ่มน้อยกลุ่มเดียวจะผลักดันประเทศไทยและแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ตนอยากเห็นประเทศไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ พร้อมตอบคำถามประชาชนว่าหากเกิดรัฐธรรมนูญของประชาชนมาแล้ว ทางในการป้องกันไม่ให้มีการฉีกรับธรรมนูญอีกคือการกระจายอำนาจ ปฏิรูปกองทัพ และประชาชนต้องร่วมกันปกป้องรับธรรมนูญ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า จังหวัดจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้สูงที่สุดในประเทศไทย ร้อยละ 72 และจังหวัดยะลากับนราธิวาสก็เกินกว่า ร้อยละ 60 ที่ไม่รับ ตนขอคารวะ ที่ทำไปเมื่อสองสามปีที่แล้ว วันนี้ปรากฎผลเด่นชัดแล้ว แม้เราจะยากจนแต่สมองไม่ได้เต็มไปด้วยขี้เลื่อย รัฐธรรมนูญที่ออกมาใช้มีปัญหาต้องแก้ไข ก่อนหน้านี้ยังไม่ทันก็เกิดปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้ ม. 44 มาพยุงข้อบกพร่องต่างๆ ไว้หลายมาตรา ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเหตุของปัญหาคืออะไร ระหว่างนายกฯ คนนี้กับรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาพอๆ กัน ตนขอเรียกร้องว่าท่านประยุทธ์ ลาออกเถอะครับ เพราะท่านเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา ถ้ายังอยู่โอกาสการแก้ปัญหาของประเทศมืดมน ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญก็ลำบาก ถ้ายังมี พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้อีกหลายจังหวัดก็จะยากจนลงไปด้วยและคนจะกอดคอกันตาย
ปัญหาของประเทศคือหลายคนถูกผลักให้กลายเป็นคนไม่รักประเทศ ทั้งๆ ที่ปัญหาของประเทศอยู่ที่ผู้นำและองคพยบที่ค้ำจุนผู้นำ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนก็ขอให้ท่านเสียสละ ตนเห็นว่าประชาธิปไตยของประเทศนี้เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออก องค์อิสระก็จะทำงานได้ดียิ่งขึ้น ขาดการแทรกแซง ก็มีความเที่ยงธรรมมากขึ้น และทหารก็จะกลับเข้ากรมกองทำหน้าทีอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมาเฝ้าคนไทยกันเอง กลับไปทำหน้าที่รั้วของชาติ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมาอยู่บนถนนเพื่อตรวจคนไทยกันเอง ไม่ใช่มาตรวจค้นและกระทืบชาวบ้าน อีกทั้ง ส.ว.เองก็จะไม่ต้องคิดว่าทำหน้าที่เพื่อทดแทนบุญคุณ พล.อ.ประยุทธ์ และจะได้ใช้สติปัญญาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยและแก้ไขกฎหมายให้สิทธิแก่ประชาชน กฎหมายใดไม่มีความเสมอภาคกฎหมายนั้นไม่ควรมาใช้บังคับ
นายวันมูหะมัดนอร์ ปิดท้ายด้วยคำพูดของประธานาธิบดีจีนว่า “เจรจาเป็นสิ่งที่ดี ถ้าข่มเหง อย่าหวังว่าจะชนะ”