ไม่พบผลการค้นหา
‘กรณิศ’ สอนมวย ‘ก้าวไกล’ อย่าตีกิน รถเมล์ไฟฟ้า นโยบาย ‘ภูมิใจไทย’ พูดแล้วทำตั้งแต่ปี65

วันที่ 14 เม.ย. 2566 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์1 พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนที่ชุมชนล็อค 123 เเละชุมชนเเจ่มจันทร์ เขตคลองเตยพร้อมแนะนำตัวร่วมกับนโยบายที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้

โดย กรณิศ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคเเละตนผลักดันมาเสมอคือการใช้รถเมล์ไฟฟ้าเพื่อลดปัญหามลภาวะและระบบการให้บริการต้องตอบสนองคนพิการด้วย รวมทั้งค่าโดยสารที่ต้องเป็นธรรม โดยเรื่องนี้พรรคได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี2565 และได้รับเสียงชื่นชมจากชาว กทม.เป็นอย่างดี ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันพัฒนาและยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและเป็นหน้าตาของประเทศในสายตาสังคมโลกด้วย

กรณิศกล่าวว่า แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมาพบว่าบางพรรคอาจทำให้สังคมสับสนและเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะเมื่อวันที่ 12 เม.ย. กรณีที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร จัดการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 2) ประจำปี 2566 โดยมีส.ก.กทม., ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ… เพื่อใช้บังคับในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และมีการลงมติผ่านญัตติฯดังกล่าว โดยที่ส.ก.พรรคก้าวไกล แจ้งสังคมว่า ข้อบัญญัติฯดังกล่าวผ่านไปได้ เพราะการทำงานของ ส.ก.พรรคก้าวไกล ประเด็นนี้ที่น่าจะทำให้สังคมสับสน เพราะข้อเท็จจริงแล้ว การที่จะดำเนินการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้านั้น รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมจะร่วมกันพิจารณาในการอนุมัติร่างกฎหมายและงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับรถเมล์ไฟฟ้า อำนาจของสภากทม.ในกรณีดังกล่าวจึงสร้างความคลาดเคลื่อนความเป็นจริง

กรณิศ กล่าวว่า ข้อบัญญัติฯดังกล่าวเป็นมาตรการกำหนดให้รถโดยสารประจำทางปรับปรุงเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่ส่งผลกระทบต่อมลภาวะทางอากาศ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาทางเทคโนโลยีของรถยนต์ทั่วโลก บังคับใช้ในกรุงเทพมหานครในช่วงจากนี้ไปเท่านั้น แต่ความจริงคือ 4 ปีที่แล้วกระทรวงคมนาคมอยู่ในการกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย ดำเนินการเรื่องรถเมล์ไฟฟ้า ออกมาให้บริการตั้งแต่ปี2565และวางแผนจะใช้รถเมล์ไฟฟ้าเข้ามาแทนรถเมล์ปัจจุบันที่ใช้มาหลายสิบปีให้หมดในไม่กี่ปีนี้ เพื่อช่วยลดมลภาวะและประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานของภาครัฐที่เกี่ยวกับการบริการสาธารณะ

กรณิศ ศกล่าวว่า "ขอย้ำว่านโยบายพรรคที่พูดเเล้วทำเพื่อชาว กทม.ในกรณีนี้คือรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งได้มีการวิ่งใช้งานแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2565 จำนวน 1,250 คัน 77 เส้นทาง และในปี 2566 จะมีรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาอีก 1,850 คัน 45 เส้นทาง รวมทั้งสิ้นจะมีรถเมล์ไฟฟ้า 3,100 คัน 122 เส้นทาง ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 500,000 ตัน ตั๋ว One Day Pass สำหรับค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวันไม่เกิน 50 บาท ราคาค่าโดยสารถไฟฟ้าแต่ละสี เริ่มต้น 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท"

กรณิศกล่าวว่า ขอแนะนำนักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นว่าการให้ข้อมูลกับสังคมนั้นควรนำเสนอให้รอบด้าน ครบถ้วน อย่าทำให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างที่เกี่ยวกับคะแนนนิยมของตัวเอง เพราะผลประโยชน์ที่แท้จริงเป็นของประชาชนทุกคน