วันที่ 22 ก.พ. 2566 จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ปรากฎภาพในโซเชียลมีเดียที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ณ ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งซ้ำรอยกับวันที่ 30 ต.ค. 2565 นักท่องเที่ยวบางกลุ่มแสดงความคิดเห็นว่านี่คือ “ฝันร้าย” ในช่วงนั้น การบริการที่เกิดขึ้นอาจส่งผลภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อประเทศ จึงขอเสนอแนะมาตรการเพื่อบรรเทาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับนักท่องเที่ยวดังนี้

1. ต้องยกเครื่องระบบการต้อนรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบ One single Service หรือ One single checkpoint ให้ครบจบในที่เดียว โดยมีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเหลือในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งท่าอากาศยาน ชายแดน หรือในรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งต้องมีการเพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้เป็น 150 ช่อง ในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น โดยวิเคราะห์จากข้อมูลการเข้าประเทศย้อนหลัง และควรระบายผู้โดยสารเฉลี่ย 8,000 คนต่อชั่วโมงให้ได้ ซึ่งตนได้เสนอไปแล้ว ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2565

2.เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อหัว โดยหนึ่งในวิธีที่จะใช้คือ การทำ MOU หรือหนังสือบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศที่มีลักษณะ ระบบเศรษฐกิจ โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงหรือสร้างผลประโยชน์กับประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่ง MOU ดังกล่าวจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการตรวจลงตรา หรือ Visa โดยเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) ที่จะเป็นการเพิ่มระยะเวลาในการท่องเที่ยว โดยจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวไปในตัว นอกจากนี้ MOU นี้จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวอีกด้วย

3.จากการที่ Skytrax สถาบันการจัดอันดับมาตรฐานสายการบินนานาชาติ จะเปิดเผยลิสต์สนามบินที่ดีที่สุดในโลก หรือ ‘The World’s Best Airports’ โดยปีนี้พบว่าสนามบินสุวรรณภูมิ ของไทย ติดอันดับที่ 77 จาก 100 ร่วงลงมาจากปี 2021 ซึ่งเคยอยู่อันดับ 66 และหากปล่อยไว้คงจะไม่เป็นสิ่งที่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย พรรคเพื่อไทยขอผลักดันในการยกระดับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การบริการของพนักงานสนามบิน สถานที่ในการจับจ่ายใช้สอยที่เหมาะสมกับทุกคนและทุกวัย มีความสะอาด มีการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมแต่ไม่สร้างความรำคาญใจกับนักท่องเที่ยว และจากมาตรการที่เสนอในข้อที่ 1 คือ การยกระดับการดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองสนามบิน ทั้งหมดจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิกลับมาคว้าอันดับที่ดีที่สุดที่เคยทำไว้ ซึ่งเคยเป็นอันดับที่ 5 ของสนามบินที่ดีที่สุดในโลก

“ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่ในทางกลับกัน เราก็ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวต้องกลับไปด้วยประสบการณ์ที่ไม่ดี ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะผลักดันมาตรการทั้ง 3 เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้มาเป็นมหาอำนาจด้านการท่องเที่ยว หรือเป็นราชสีห์การท่องเที่ยวตัวใหม่ของโลก เพื่อยกระดับชีวิตของผู้ประกอบการ แรงงาน และภาคการผลิตอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หากรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ทำ สมัยหน้ารัฐบาลเพื่อไทยจะทำเอง” จักรพลกล่าว