พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 31/2563 เรื่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 9/2562 เรื่องการยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บางฉบับที่หมดความจำเป็น โดยยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดกรอบอัตราชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ เพื่อรองรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและแก้ไขข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานขององค์การคลังสินค้า นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ค่าจ้าง เงินอื่น และสิทธิประโยชน์เดิมที่ได้รับอยู่ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่ยัดนี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ 'มติชน' รายงานระบุว่า มติบอร์ด อคส.ให้แจ้งความ 'ดีเอสไอ-ปปง.' กรณี รักษาการ ผอ.อคส.กระทำการลุแก่อำนาจ โครงการถุงมือยาง กรณี พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งเป็นคณะทำงานมาจากบอร์ดอคส.ชุดก่อนหน้านี้กระทำการเรื่องกิจการถุงมือยางโดยพลการ กรณีนี้หลังจากที่ผู้อำนวยการคนใหม่ เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.อคส. คนใหม่ตามมติ ครม.วันที่ 1 กันยายน 2563 ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีการนำเงินไปลงทุนซื้อถุงมือยาง เพื่อนำไปจำหน่ายต่อจำนวนมาก ซึ่งผอ.คนใหม่ที่เข้ามาโดย ครม.อนุมัติจากการเสนอจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ 

โดย ผอ.อคส.คนใหม่เข้าไปทำงาน แล้วพบข้อมูลดังกล่าวจึงรีบรายงานให้ รมว.พาณิชย์ทราบทันที จากนั้นจุรินทร์ ให้เกรียงศักดิ์ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและประสานงานสำนักนายกฯ ให้ย้ายรักษาการ ผอ.อคส. (พ.ต.อ.รุ่งโรจน์) เข้าไปประจำสำนักนายกฯ เสียก่อน เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ และวันนี้ให้คณะกรรมการ หรือ บอร์ด อคส.ประชุมช่วงเช้าที่ผ่านมามีมติว่าให้ระงับโครงการดังกล่าว พร้อมให้อำนาจผู้อำนวยการคนใหม่ไปแจ้งความต่อดีเอสไอและ ปปง.พร้อมให้อายัดบัญชีที่รักษาการ ผอ.อคส.ได้กระทำการไปนั้นเสียพร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินบริษัทผู้รับโอน

ด้าน ธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการ อคส.เพื่อขอให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ มารายงานตัวที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) แต่ยังไม่ได้รับการประสานว่าจะเข้ามารายงานตัวที่ สปน.เมื่อใด ซึ่งหากมารายงานตัวแล้วจะพูดคุยมอบหมายภารกิจความรับผิดชอบต่อไป