เจนนี่ ได้หมดสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ นักร้องสาวชื่อดัง งัดหลักฐานแชตโต้กลับทันควันพร้อมกับชี้แจงละเอียดยิบ ภายหลังจากถูกโยงกรณีมีเพจออกมาแฉถึงค่ายเพลงหนึ่งเบี้ยวค่าตัวนักร้องหนุ่มที่ได้มาร่วมงานกัน แถมเพลงยังโด่งดังเป็นพลุแตก แต่กลับไม่แบ่งเงินให้ตามที่ตกลงกันไว้

ทั้งนี้นักร้องสาว เจ้าของเสียงร้องเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ชี้แจงละเอียดยิบ ผ่านเฟซบุ๊ก น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ว่า ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่นไม่เคยโกงค่าตัวใคร ขออนุญาตออกมาปกป้องตัวเองจากการถูกใส่ร้าย

"ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้อง แต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก แต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆ ก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาท แต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด แต่เนื่องจากน้องอยู่กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลย"

"ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจxxx แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ เพราะตอนเกิดปัญหาใหม่ๆ ทางเราเคยโทรไปเพื่อจะเจรจาแล้วแต่ทางฝั่งน้องไม่รับสายและไม่โทรกลับอีกเลย ติดต่องานไปช่วงหลังๆ น้องก็ไม่ค่อยตอบ จนกระทั่งน้องลบเพื่อนในเฟซบุ๊คไป เราก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย จนถึงวันนี้วันที่ค่ายเราประสบปัญหามากมาย ทางผู้ใหญ่ของน้องเลือกที่จะใช้เพจxxx เพจที่โจมตีเรามาตลอด ในการเป็นสื่อเพื่อออกมาให้การเท็จ เพราะผู้ใหญ่ฝั่งน้องรู้ดีถ้าเล่นทางเพจนั้นจะมีคนเข้าข้างอย่างแน่นอน ทำไมพวกท่านไม่มาคุยกันตรงๆ ทำไมใช้วิธีแบบนี้ เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาเราให้เกียติน้องทุกครั้งที่เจอน้องมาโดยตลอด ทำไมพวกท่านเลือกใช้ช่วงเวลาที่เรากำลังอ่อนแอ เลือกเพจที่จ้องแต่จะทำร้ายเราในการเป็นสื่อกลาง ตอนแรกอยากนิ่งเฉยเพราะเราเหนื่อยมากพอแล้วกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้พวกคุณกำลังใส่ร้ายเรา เราจึงขออนุญาตออกมาปกป้องตัวเองส่วนดราม่าอื่นๆปล่อยให้เป็นไปตามกระแส คำตัดสินจะออกมายังไงค่อยว่ากัน เราทำดีที่สุดแล้ว ผิดก็ว่าไปตามผิด เราพร้อมแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่มีภาพงานคอนเสิร์ตของนักร้องสาวชื่อดัง ที่ จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ถูกเผยแพร่ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม ถามหามาตรการของรัฐบาลและศบค.ในการป้องกันโควิด-19 เนื่องจากที่งานคอนเสิร์ตผู้เข้าชมไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย

วันที่ 29 ก.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีการจัดคอนเสิร์ตของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่วัดเขาล้อม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และที่หน้า อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่มีการเว้นระยะห่าง และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยตามที่กำหนด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงมีการสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จว.กระบี่ และพล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่า ได้มีการสั่งการไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุ ให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และอาจมีการเรียกตัวผู้จัดงานคอนเสิร์ตรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ และจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ขอความร่วมมือผู้จัดงานคอนเสิร์ต ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติ เข้มงวดในการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังต่อเนื่อง