ไม่พบผลการค้นหา
'สุดารัตน์' ควงหัวหน้าพรรค - เลขาฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำ แถลงแคมเปญโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 'พอแล้ว นักการเมืองดัดจริตต่อชีวิตเผด็จการ' ปลุกประชาชนเข้าคูหาต้องมียุทธศาสตร์ให้เลือกเพื่อไทยถล่มทลายหยุด คสช. สืบทอดอำนาจ อย่าหลงเชื่อพรรคแทงกั๊กอิงแอบเผด็จการ ยันดันหวยบำเหน็จเปิดทางแก้กฎหมายธนาคารออมสิน ให้ซื้อสลากได้เดือนละครั้งส่งเสริมการออม เกษียณอายุ 60 ปีได้รับดอกเบี้ย ถ้าเสียชีวิตก่อนเงินตกเป็นของลูกหลาน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมแถลงเปิดนโยบายพรรคเพื่อไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง พร้อมทั้งขึ้นป้ายแคมเปญโค้งสุดท้ายในการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า ‘พอแล้ว! นักการเมืองดัดจริตต่อชีวิตเผด็จการ เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น’ 

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งบนความคาดหวังที่มีสูง อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้มีกติกาที่ไม่เหมือนกับกติกาสากล เป็นกติกาที่สร้างขึ่นมาเอื้ออำนวยให้เกิดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ผ่านรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งครั้งนี้มีกลไกไม่เป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยจะบอกประชาชนใน 7 วันสุดท้ายให้ได้พิจารณาว่าการไปเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องไปเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ และต้องเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลายเพื่อหยุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งการเลือกตั้งจะต้องไม่ใช่เลือกเพราะรักใคร เพราะพรรคที่เลือกอาจไม่ได้มาจัดตั้งรัฐบาล และประชาชนต้องรู้จุดยืนของแต่ละพรรคการเมืองด้วย

เหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่ต่ออีก 4 ปีข้างหน้า เพราะการบริหารประเทศ 4 ปีที่ผ่านมาทำให้เศรษฐกิจเสียหาย หนี้สินเกษตรกรเพิ่มขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีสองทางเลือก คือ กลุ่มพรรคหนุน พล.อ.ประยุทธ์ หนุนสืบทอดอำนาจ กับพรรคการเมืองที่ไม่หนุนสืบทอดอำนาจ และอีกทางเลือกมีพรรคการเมืองที่ประกาศว่าไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่บอกจะหนุนพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ซึ่งเป็นคำตอบที่แทงกั๊ก พรรคการเมืองนี้จะมีเหตุผลเท่ๆ หล่อๆ ที่จะไปร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ หลังเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้ประชาชนเอกซเรย์ไม่หลงเชื่อพรรคที่แสดงตัวว่าเป็นประชาธิปไตยแต่กลับอิงแอบเผด็จการ ล้มเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร

"การเลือกตั้งครั้งนี้กติกาเปลี่ยนไปสร้างให้สืบทอดอำนาจ มี ส.ว.ที่ คสช.เลือกมามีอำนาจเลือกนายกฯ 2 สมัย 8 ปี การเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่ามีประชาชนมาเลือกตั้งถึง 40 ล้านคน แต่ คสช. องค์กรเดียวใช้สิทธิแทนประชาชน 20 ล้านคนมาเลือก ส.ว. 250 คน และเราต้องไม่ยอมให้พรรคเสียงข้างน้อยที่สนับสนุน คสช. มาหลอกให้ประชาชนตายใจ ถ้าประชาชนไม่อยากยอมแพ้ให้เผด็จการและความสิ้นหวัง มีทางเดียวต้องหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ต้องไปเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้นให้ถล่มทลาย" คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ

เพื่อไทยแถลงเพื่อไทย หวยบำเหน็จ สุดารัตน์ __47546427.jpg

ลั่นเป็นรัฐบาลดันหวยบำเหน็จ เปิดทางแก้กฎหมายให้ ธ.ออมสิน ดูแล

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุถึงหวยบำเหน็จหรือสลากการออมแห่งชาติ เป็นการส่งเสริมการออม โดยพรรคมองว่าคนไทยเหมือนวิถีชีวิตซื้อสลากกินแบ่งได้มีความสุขเดือนละ 2 ครั้ง จึงนำเอาความชอบความสุขเล็กน้อยของชาวบ้านโดยจะชวนให้ประชาชนมาออม ซึ่งเป็นการเอาความชอบประชาชนที่ชอบซื้อหวยด้วยการซื้อสลากบำเหน็จเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งไม่เหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลซื้อมาแล้วเงินหายไป แต่หวยบำเหน็จเงินจะไม่หายไป โดยซื้อเพียงเดือนละ 1 ครั้ง ถ้าอยากจะเลือกซื้อก็ซื้อได้ครั้งละ 3,000 บาท และ 1 ปีก็ได้เงินกว่า 30,000 บาท โดย 1 ปีมีเงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 2 แสนกว่าล้านแต่เงินนั้นก็หายไป ถ้าแบ่งเงินตรงนี้ทำหวยบำเหน็จ เมื่อเกษียณอายุตอน 60 ปีก็จะได้รับดอกเบี้ยด้วย และยังลุ้นเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวด้วย อีกทั้งมีเงินปันผลให้ ซึ่งระยะการออมถ้าซื้ออายุ 20 ปีก็ออมได้อีก 40 ปี ถ้าซื้อแลัวเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี เงินตรงนี้จะตกเป็นของลูกหลาน

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ระบุเพิ่มเติมว่า หวยบำเหน็จที่พรรคเพื่อไทยคิดนั้นจะระบุว่าใครเป็นคนซื้อ ซึ่งบำเหน็จจะออกเพียงเดือนละครั้ง หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลคาดว่าจะมีการออกกฎหมายเพิ่มเติมว่าด้วยธนาคารออมสิน เพื่อเปิดทางให้ออกสลากประเภทนี้ โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้มีสลากดังกล่าว อีกทั้งตอนนี้มีกองทุนการออมแห่งชาติ ประชาชนส่งเงิน 50 บาท แต่กองทุนการออมแห่งชาติประชาชนจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี เงินดังกล่าวจะไปอยู่ในกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งอาจให้ธนาคารออมสินบริหารเงินประเภทนี้

นายภูมิธรรม ระบุว่า นโยบายหวยบำเหน็จนั้น คือเข้าใจวัฒนธรรมไทยว่าชีวิตประชาชนควรมีหลักประกันทุกด้าน จึงขอให้ออกไปเลือกตั้งโดยใช้ปากกาขับไล่เผด็จการออกไป

เพื่อไทยแถลง

'ภูมิธรรม' ห่วงเลือกตั้งล่วงหน้ามีปัญหา เตือน กกต.ต้องรับผิดชอบ

ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเดินหน้าในคดีทุจริตระบายข้าวล็อต 2 นายภูมิธรรรม ระบุว่า ไม่สบายใจกับการใช้อำนาจรัฐบิดเบือน อะไรที่เป็นตามกฎหมายก็ขอให้ทำตามกฎหมาย ไม่อยากให้ใช้กฎหมายมาจัดการทางการเมือง แต่ควรให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป

ส่วนนโยบายจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องผิดพลาด แต่เป็นเรื่องของกระบวนการที่มีปัญหาในฝ่ายปฏิบัติ แต่ก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่พรรคหลีกเลี่ยงจะพูด เราได้พิจารณาต่อกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งได้คิดนโยบายที่ทดแทนได้

นายภูมิธรรม ยังระบุว่าเป็นห่วงการจัดการเลือกตั้งของ กกต. อยากให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้เป็นประสบการณ์ให้ กกต. จัดเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. อีกทั้งกฎหมายพรรคการเมืองสร้างความสับสน ทาง กกต.ยังไม่ประชาสัมพันธ์มากพอ การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกเชิงยุทธศาสตร์ว่าจะเอาเผด็จการหรือประชาธิปไตย จะเลือกให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อหรือกลับบ้าน วันนี้ต้องเลือกสองขั้วนี้เท่านั้น และขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลือกว่าจะหยุดฝ่ายเผด็จการหรือประชาธิปไตย

นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นสิ่งที่ห่วงใยมาก ได้ทำหนังสือไปยัง กกต. ขณะนี้มีคนขอใช้สิทธิ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งเป็นจำนวนมาก และเห็นตัวอย่างในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เช่น มาเลเซีย ไม่สามารถรองรับจำนวนคนที่มาขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ไม่มีกระบวนการรองรับได้เพียงพอ ยังคิดแบบเดิมว่าไม่ค่อยมีคนมาใช้สิทธิ แต่ปรากฏว่าประชาชนตื่นตัว แต่ กกต.ยังไม่มีคำตอบ และบอกว่ากำลังพิจารณากัน เป็นความรับผิดชอบของ กกต.โดยแท้ ไม่มีสิทธิไปอ้างอย่างอื่น จะอ้างว่า 7 คนเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง ไม่สะท้อนความโปร่งใส กกต.ต้องรับผิดชอบ หากมีผลทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และทำให้การเลือกตั้งมีอันเป็นไป หรือไม่ต่อเนื่อง กกต.ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งการกระทำที่ไม่สามารถควบคุมดูแลการปฏิบัติการที่เกิดขึ้นอย่างยุติธรรมได้ และต้องรับผิดชอบ 

เมื่อถามว่า เป็นการจงใจที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ หากผู้มีอำนาจไม่พอใจผลการเลือกตั้ง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่อยากจะคิด แต่โดยหน้าที่ต้องทำเต็มความสามารถ เวลานี้บ้านเมืองมีเรื่องราวที่ทำให้ไม่โปร่งใสชัดเจน แม้แต่การเลือก ส.ว.ก็ควรจะโปร่งใส ต้องชัดเจนว่าใครเป็นคณะกรรมการ ใครเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จะดูแลการเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างไรให้เกิดความชัดเจนก็ยังไม่เปิดเผยให้ชัดเจนว่ามีกระบวนการจัดการให้โปร่งใสอย่างไร ถ้ามีข้อบกพร่องต้องรับไปเต็มๆ ปฏิเสธการใช้อำนาจหน้าที่ ทำให้เกิดปัญหาจะอธิบายอย่างไรต้องอธิบายให้สังคมได้เข้าใจ

เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้งเกิดอุบัติเหตุ ในฐานะผู้เสียหายจะทำอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูรูปธรรมเป็นรายกรณี ฝ่ายกฎหมายติดตามเรื่องนี้อยู่ คงไม่ปล่อยไปเฉยๆ เพราะกระทบกระเทือนสิทธิของประชาชน ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง