ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ พร้อมคณะบินไปเชียงราย ประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ติดตามการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พร้อมมอบนโยบายเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงราย ด้วยเครื่องบิน บ.ท.135 แอมแบร์ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ

9-24-2020 9-50-12 AM.jpg

โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดการสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 โรงเรียนทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 39 'ไทยรัฐวิทยากับชีวิตวิถีใหม่' ณ ห้องเชียงรุ้ง โรงแรมเวียงอินทร์ ต.เวียง อ.มืองเชียงราย จ.เชียงราย พร้อมมอบโล่รางวัลชนะเลิศ Best Practiceแล้วเดินทางไปยังโรงแรม เดอะ รีเวอร์ รีบาย กะตะธานี ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ

9-24-2020 9-48-52 AM.jpg

ทั้งนี้ มีผู้แทนเครือข่ายเยาวชนจิตอาสานำเสนอโครงการฟื้นฟูต้นน้ำ 'ฝายตามแนวพระราชดำริ' ก่อนนายกฯ มอบนโยบายเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ

จากนั้น ช่วงบ่ายนายกฯ พบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา 'หมอกควันไฟป่า' ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากตัวแทนประชาชน พร้อมกล่าวกับประชาชนที่มาร่วมงาน แล้วตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ก่อนนายกฯ และคณะร่วมกันปลูก 'ต้นกาสะลองคำ' ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.เชียงราย เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วม 'ปลูกต้นไม้ สู้ไฟ'

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯ และคณะเดินกลับกทม.


'ประยุทธ์' ยินดีเยือนเชียงราย หยอดคำหวานไม่เก่ง แต่จริงใจ

เมื่อเวลา 13.20 น. ที่สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา 'หมอกควันไฟป่า' โดยประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวรายงานสรุปผลการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 

จากนั้นนายกฯ รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนประชาชน อาทิ กลุ่มสมาร์ตฟาร์มเมอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิต โดยมีปัญหาคือกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ การขายในช่องทางออนไลน์ ตัวแทนเกษตรกรจาก อ.แม่สาย ได้ขอบคุณรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและตัวแทนกลุ่มชนชาติพันธุ์ ได้ขอบคุณในเรื่องที่ดิน การอาศัยในพื้นที่ป่าสงวนอย่างถูกกฎหมาย 

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า ขอบคุณในการต้อนรับที่อบอุ่นและสวยงาม เป็นอีกครั้งที่มีโอกาสได้มาพบกันกับชาวเชียงราย ตนเคยมาที่นี่แล้วหลายครั้ง เพราะนายกฯ มีภารกิจทุกจังหวัด หน้าที่นายกฯ คือทำเพื่อประชาชน 70 กว่าล้านคน พยายามขับเคลื่อนทุกอย่างให้เดินหน้าไปพร้อมๆ กันอันไหนแย่กว่าเขาก็ต้องเร่งพัฒนาให้มากขึ้น กลุ่มไหนที่เดือดร้อนก็ดูแลให้ผ่อนคลายเดือดร้อนก่อน ค่อยๆเสริมเติมต่อ เพราะนโยบายของรัฐบาลคือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอฝากพวกเราไว้ด้วย อย่าปล่อยให้เพื่อนบ้าน ญาติ พี่น้องของเราลำบาก ถ้าเราเกื้อกูลกัน มันก็ไปได้หม

นายกฯ กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาเยือนจังหวัดเชียงราย วันนี้ไปพูดคุยเรื่องการศึกษากับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นบ่อเกิดการได้รับโอกาส และการศึกษาได้เข้ามาอยู่ในแผนงานบริหารประเทศ และได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของทุกรัฐบาล ฉะนั้นการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะในโรงเรียน แต่เป็นการศึกษาตลอดชีวิต การศึกษาในชุมชน เป็นต้น แค่พูดคุยในสิ่งที่เป็นสาระ เป็นประโยชน์ก็เป็นการศึกษา การเรียนรู้ และเราต้องเดินไปพร้อมๆกันด้วยความเข้าใจ

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาเน้นย้ำติดตามกำกับดูแลเรื่องแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ตนเป็นห่วงผู้ที่มีความต้านทานต่ำ ทั้งเด็ก คนชราและคนป่วย ซึ่งต้องดำเนินการจำกัดค่า PM ที่เกินขนาดจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพ เราเดินหน้ามาตลอด ตั้งแต่รัฐบาลก่อน แต่หลายอย่างอาจเดินได้ช้า หลายอย่างสร้างวันเดียวไม่ได้ สิ่งที่เป็นประโยชน์ของชาติ และศักยภาพของประเทศ ขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง และธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะน้ำ ป่า ภูเขา โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย และภาคเหนือทั้งหมด ที่คนอยากมาเที่ยว แต่หากเราทำลายไปทั้งหมด แล้วเขาจะมาเที่ยวอะไร รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยสะดวก ปรับแผน ดูด้านกฎหมาย ให้มีสัมฤทธิ์ผลมากยิ่งขึ้น การทำงานของรัฐบาล ไม่ง่ายนัก ที่จะทำอะไรทันทีออกมาให้ได้ ตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขระเบียบ ระบบต่างๆเพราะมันพันกันไปในเรื่องงบประมาณ และแผนโครงการ

"นโยบายของรัฐบาลในช่วงโควิด-19 คือการับฟังความคิดเห็นให้มากที่สุด จากทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ว่าต้องการอะไร ที่ไหน อย่างไร และหากทำตรงนี้ไม่ได่จะไปทำที่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้อบูรณาการกับผู้ว่าฯ ผู้นำในท้องถิ่นให้ชัดเเจน เพื่อให้โครงการตรงตามที่ทุกคนต้องการ" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความต้องการของตัวแทนชาวจังหวัดเชียงรายที่บอกกับตน ก็ถือเป็นความต้องการที่มีประโยชน์ อาทิ การพัฒนาและสร้างเกษตรกรต้นแบบของจังหวัดเชียงราย รัฐบาลให้ความสำคัญต้องมีการทำการเกษตรแบบใหม่ ส่วนเรื่องการเรียนรู้การขายสินค้าทางการเกษตรแบบออฟไลน์ และออนไลน์ เป็นสิ่งในโลกยุคใหม่หลังโควิด-19 อย่ามองว่าไกลตัว ประชาชนอาจยังไม่เข้าใจมากนัก เป็นหน้าที่หน่วยงานราชการต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ก็ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และการทรวงอุดมศึกษาฯไปทำความเข้าใจกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง พิจารณาแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ เกิดการกระตุ้นให้มีแรงจูงใจ และปรับเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อพัฒนาระบบเกษตรกรรมทั้งประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะสั่งการกำชับ กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาเรื่องการจัดที่ดินทำกินโดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บนที่สูงให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ไปก่อน เพราะเดิมไม่มีอะไรเลย จึงมีการกระทบกระทั่งมาก่อน อยู่มาแล้วถูกไล่ ถูกจับ จึงต้องมีมาตรการผ่อนคลายไปเป็นระยะก่อน

ส่วนเรื่องกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย เรามีการช่วยเหลือจนส่วนหนึ่งได้รับโฉนดคืนมา แต่ยังมีอีกเยอะที่เสียโฉนดไปด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกหลอกลวง หรือจากหนี้นอกระบบบ้าง ซึ่งรัฐบาลแก้ไม่ได้ง่ายๆ แต่ต้องทำเรื่องกฎหมายที่ออกมาแล้ว ส่วนเรื่องการติดต่อธนาคารให้ชะลอการดำเนินคดีกับเกษตรกร และช่วยเหลือการชำระหนี้เพื่อให้ได้โฉนดที่ดินคืน อยู่ในขั้นตอนการศึกษาว่าจะทำได้แค่ไหน ที่ผ่านมาเราได้ให้ชะลอจากธนาคารพาณิชย์ในช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนยากลำบาก ดังนั้นจะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลังดูแลเรื่องนี้

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรื่องโควิด-19 เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องระมัดระวัง และดีใจที่ใส่หน้ากากกันมาทุกคน ซึ่งทุกอย่างมองด้วยตาก็รู้ ใครจริงใจไม่จริงใจ คนจะรักจะชอบกันสายตาเป็นสิ่งบ่งบอก เขาบอกดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คำหวานๆ ตนก็พูดไม่ค่อยเป็น วันนี้ก็อายุเยอะแล้วพูดคำหวานไม่ค่อยเก่ง เพราะฉะนั้นจะพูดจากความจริงใจจากหัวใจของนายกฯ เป็นห่วงทุกคน ห่วงทุกที่ ห่วงทุกปัญหา ร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกัน เรียกว่าการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ที่มีรายได้หลักของประเทศคือการเกษตร ทุกอย่างต้องพัฒนาและอาศัยความร่วมมือของเราทุกคนในทางที่สร้างสรรค์ สิ่งที่เป็นปัญหา ที่จนอยู่อย่างนี้ ที่ลำบากอยู่อย่างนี้ ที่ขาดแคลนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรโดยไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างถ้าเริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายมันไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น

"เราอยู่กันมาเป็นประเทศชาติของเรากี่ปีมาแล้ว ชั่วชีวิตเรามาจนถึงทุกวันนี้อยู่กับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว ผมจึงอยากให้พวกเรามาแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์อย่างนี้ อยากได้อะไร อยากทำอะไร เหล่านี้รัฐบาลจะได้นำไปทำได้ถูกต้อง ปฏิบัติได้เร็วขึ้น ตรงความต้องการของประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการระบาดระลอกที่ 2 ฝากขอบคุณทุกคนด้วย ทุกคนคือด่านหน้า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด่านหน้าท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนตามแนวชายแดน นี่คือด่านหน้าของประเทศเหมือนกัน ต้องพยายามอย่าให้ใครหลุดลอดเข้ามาโดยไม่ผ่านช่องทางที่ถูกต้องโดยเด็ดขาด เพราะจะนำเชื้อเข้ามาในประเทศของเรา ซึ่งประเทศเราแก้ปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอันดับต้นๆของโลก อย่าลืมนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาในปีนี้ แต่แน่นอนต้องลำบากเรื่องเศรษฐกิจ แต่เดี๋ยวจะดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ

การท่องเที่ยว วันหยุด ต้องคิดแบบนี้ ถ้าเลิกไอ้นี่ไอ้โน่น เลิกไอ้โน่นหยุดไอ้นี่ ทำไม่ได้สักอย่าง และจะเละไปทั้งหมด เราเรียนรู้ไปมากจากโควิด ด้วยความร่วมมือจากทุกคนไม่ใช่นายกฯเพียงคนเดียว นายกฯ เพียงตัดสินใจ กำหนดนโยบาย บูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน ใช้กฎหมายที่มีอยู่โดยไม่ละเมิดสิทธิใครทั้งสิ้น แต่ทุกคนต้องถือว่าเราร่วมกันทำงานให้ประเทศชาติเราปลอดภัยในเรื่องการสาธารณสุข ตนพูดเยอะจนเหนื่อย แต่คนทำเหนื่อยกว่านี้ ข้าราชการที่ทำก็เหนื่อย ถ้าว่ากันไปมา ด่าข้าราชการ ด่านายกฯ ถึงด่าเขาก็ทำและอดทน ทนได้ สีทนได้เสมอ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตอนนี้ก็มีการเพิ่มให้ 3 เดือน การที่มาบอว่าารัฐบาลให้เงินแจกเงินมันไม่ใช่ เพราะรัฐบาลมีวัตถุประสงค์ต้องการให้เงินหมุนเวียนในระบบ มีการใช้จ่ายซื้อสินค้า เราต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจและปลูกฝังค่านิยมใหม่ให้กับคนไทยที่ต้องอยู่ด้วยเทคโนโลยี ถ้ายังคิดแบบเดิม ทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิมๆ จะยิ่งสร้างความเสียหายไปเรื่อย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ที่เราบ่นกันว่าลำบาก แต่หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่เขาลำบากกว่าเราเยอะ ซึ่งถ้าเราบบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศได้ก็แก้ปัญหาได้ อย่างไฟป่าที่เราเป็นจุดๆ แต่ละหมู่บ้านก็ต้องช่วยกันแก้ไข อย่างเรื่องการหาสัตว์ป่า ก็อย่าไปทำเลย ไปทำร้ายเขาทำไม บาปกรรมด้วย ขอให้มาหากินกันข้างนอก การจุดไฟเผาป่าเห็ดก็ขออย่าทำอีก หากเราทำลายป่ามาก ๆ วันข้างหน้าช้างป่าก็ต้องออกมาหากินข้างนอก เพราะเราไปรบกวนเขา ก็ต้องมารบกันอีก 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกย้ำว่า วันนี้เราต้องเจริญเติบโตไปข้างหน้า เข้มแข็ง ยั่งยืน ก้าวเดินไปพร้อมกัน ซึ่งต้องมีก้าวแรกเสมอ ใครก้าวเดินสองขาพร้อมกันได้หรือไม่ มันก็จะหงายท้อง จึงต้องเดินทีละก้าว วันนี้เราเดินหลายก้าวแล้วช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงต้องเดินต่อไปอีกหลายก้าว ถ้าเราหยุดตรงนี้แล้วมาเริ่มก้าวที่หนึ่งใหม่มันจะไหวหรือไม่ ที่ผ่านมาใช้เวลากี่ปีกว่าจะเริ่มก้าวที่หนึ่งได้ ขอให้คิดตามที่ตนพูดด้วย ตนไม่ได้จะไปอะไรกับใครอยู่แล้ว 

จากนั้นนายกฯ ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหา 'หมอกควันไฟป่า' โดยการบริหารจัดการพื้นที่และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การควบคุมการเกิดไฟ และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน อาทิ การแก้ปัญหาการเผาป่าเพื่อหาเห็ดของชาวบ้าน โดยได้นำเห็ดที่ทำการเพาะนำมาประกอบอาหารอย่างแกงเห็ดตับเต่า โดยนายกฯได้ขอลองชิม พร้อมชมว่าอร่อย ถามหม้อนี้เท่าไหร่ขอจองเอากลับไปให้คนกรุงเทพฯ พร้อมรับฟังการบรรยายการปฏิบัติเข้าดับไฟป่า จากเจ้าหน้าที่ ชมการใช้โปรยเพื่อการจัดการไฟป่าและฟื้นฟูป่า 

นายกฯ ยังได้ชมกิจกรรมของสำนักงานกอองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในโครงการเรียนรู้และการสื่อสารสู้ภัยฝุ่นในโรงเรียน ที่มีน้องๆมาวาดภาพเกี่ยวกับป่าไม้ สัตว์ป่า ภาพปัญหาหมอกควันพิษ การเผาป่า โดยนายกฯยังได้เซ็นชื่อให้เป็นที่ระลึกหลังภาพวาดเด็กๆและได้เขียนข้อความ "ด้วยความรักชาวยกันรักษาป่าสิ่งแวดล้อม เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต"

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ว่า ตนมาให้กำลังใจกับทุกคน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาไฟป่า ยังมีปัญหาอีกเยอะ เราต้องแก้ไปทีละเรื่อง แก้ปัญหาให้เร็ว หยุดปัญหานี้แล้วแก้ปัญหาใหม่ จะมีใครนอกจากข้าราชการ นอกจากประชาชนจะช่วยรัฐบาล ยังมีใครอีก ไม่มีแล้ว ซึ่งเรามีแผนที่ชัดเจน ขอบคุณทุกคน สิ่งสำคัญคือความปลอดภัย

จากนั้น นายกฯ และคณะร่วมกันปลูก 'ต้นกาสะลองคำ' ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.เชียงราย เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วม 'ปลูกต้นไม้ สู้ไฟ' ก่อนเดินทางกลับกทม.