นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา กล่่าวถึง การตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 ของสภาผู้แทนราษฎรว่า เห็นด้วยที่จะมีการตั้ง กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ แต่ถึงที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการ ว่าจะแก้ไขประเด็นอะไรบ้างที่สำคัญต้องรับฟังความเห็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีการทำประชามติ
นายสุวัฒน์ มองว่า ฝ่ายการเมืองไม่ชินกับกติกาในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ไม่ขอพูดว่ากระทบต่อพรรคชาติพัฒนาอย่างไรเพราะไม่สำคัญเท่ากับกระทบต่อประเทศส่วนร่วม ซึ่งกาคแก้ไขรัฐธรรมนูญจะส่งผลให้เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศดีขึ้น
สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี นั้น นายสุวัจน์ มองว่า เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตัดสินใจและจะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในภาวะเสียงปริ่มน้ำด้วย เพราะหากรัฐบาลแพ้มติในสภาบ่อยๆก็จะกระทบความเชื่อมั่นและการลงทุน ดังนั้น รัฐบาลมี 2 ทางเลือกคือ การคุมเสียงในสภาให้ได้ 253 ถึง 250 เสียงก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเสียงไม่ครบอยู่เรื่อยๆ มีความจำเป็นที่จะต้องหาเสียงเข้ามาเพิ่ม ด้วยวิธีที่อยู่ในกรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
ส่วนผู้จะมาเป็นประธาน กมธ. แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่กรรมาธิการจะต้องเลือกกันภายใน โดยส่วนตัวมองว่า หากเป็นผู้มีอาวุโส มีประสบการณ์ที่สามารถสร้างความเข้าใจร่วมกันในกรรมาธิการได้ และที่สังคมรู้สึกว่าชอบหรือได้รับการยอมรับจะทำให้ผลการศึกษาต่างๆ ดูดี