นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 ที่ สน.ปทุมวัน ว่า การเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหานั้นไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งข้อหาตามมาตรา 116 เป็นข้อหาร้ายแรง เพราะเป็นข้อหาที่อยู่ในความดูแลของศาลทหารด้วย ส่วนตัวขอเรียนประชาชนว่าแกนนำพรรคยังเดินหน้าสร้างพรรคการเมืองต่อเนื่อง และพรรคก็พร้อมฝ่ากระแสโจมตี ยืนยันแกนนำพรรคมีกำลังใจดี ส่วนที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนจะไปให้กำลังใจที่ สน.ปทุมวันนั้น ยืนยันพรรคไม่ได้จัดตั้งคนหรือสร้างสถานการณ์ และยินดีหากจะมีคนมาให้กำลังใจ ไม่ได้ห้ามคนมาให้กำลังใจ ส่วนตัวอยากเห็นประชาธิปไตยและเห็นความเป็นธรรมในสังคม

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มสยามมานุสติออกมายื่นร้อง กกต.ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ฐานเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองที่ไปสานต่อภารกิจคณะราษฎรเมื่อปี 2475 นั้น นายธนาธร ระบุว่า ขณะนี้มีคนที่ไปร้องกกต. มากล่าวหาพวกเราเต็มไปหมด เรื่องนี้ไม่ทราบกลุ่มดังกล่าวมีเจตนาอย่างไร แต่ปี 2475 คณะราษฎรไม่ใช่ล้มล้างสถาบันแต่เป็นการเปลี่ยนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยไม่เกี่ยวข้องกับการล้มล้างสถาบัน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ต้องการให้ล้มล้างประชาธิปไตยเช่นกัน

ส่วนกรณีที่สำนักงาน กกต. เสนอให้ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้ ส.ส. นายธนาธร ระบุว่า การคำนวณ ส.ส.ให้พรรคการเมืองของ กกต.ต้องทบทวน เพราะที่มีการพูดกันในขณะคือความยุติธรรม ซึ่งพรรคการเมืองขนาดเล็กได้ 3-4 หมื่นเสียงนั้นยังไม่สามารถเอาชนะในบางเขตได้ ถ้ายึดจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนที่ค่าเฉลี่ย ส.ส. 500 คน หากพรรคใดได้ ไม่ถึงค่า 7.1 หมื่นเสียง ต่อ 1ส.ส. ก็ไม่ควรได้ ส.ส. อยู่แล้ว ส่วนกรณีนี้คงต้องมีการหารือกับผู้บริหารพรรคอีกครั้งหาก กกต.มีมติยึดการคำนวณ ส.ส.เช่นนี้

นายธนาธร ยังเรียกร้องไปยัง กกต.ว่าต้องประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.ก่อนวันที่ 9 พ.ค. พร้อมทั้งเปิดผลคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งให้โปร่งใส เพราะการเปิดผลเลือกตั้งรายหน่วยไม่ขัดต่อความมั่นคง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็ใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมงก็ประกาศผลทั่วประเทศได้แล้ว