เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรค และกรุณพล เทียนสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 (จตุจักร-หลักสี่) ขึ้นรถแห่จากร้านจิตประภัสสร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ไปตามถนนวิภาวดี ถนนแจ้งวัฒนะและถนนพหลโยธิน เพื่อขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ไว้วางใจเลือกพรรคก้าวไกลกว่า 20,361 คะแนน ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา

พิธา กล่าวว่า ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะจบไปแล้ว และแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ชนะในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ แต่พรรคก้าวไกลยังคงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนเหมือนเดิมและจะทำงานให้หนักขึ้น ตนอยากขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สละเวลาอันมีค่าออกไปใช้สิทธิ ทำให้ตนเห็นว่าการเมืองแห่งความหวังนั้นเป็นอย่างไร และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล การมีอยู่ของนักการเมืองแบบนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ 

"ผมขอขอบคุณหนึ่งในสี่ของประชาชนจตุจักร-หลักสี่ที่สละเวลาออกไปเลือกตั้ง ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ออกไปใช้สิทธิและแสดงให้คนทั้งประเทศเห็นว่าการเมืองแห่งความหวังนั้นเป็นไปได้ ถึงแม้การเลือกตั้งจะจบไปแล้ว แต่พรรคก้าวไกลยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้พรรคก้าวไกลไม่ชนะในการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นการทำงานในปีนี้ของพรรคก้าวไกล สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปคือการเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครในเดือน พ.ค. นี้ ทุกคะแนนเสียงของประชาชนคือกำลังใจให้เราทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ทุกการโบกมือ ทุกรอยยิ้ม คือแรงพลักดันทำให้พวกเรายืนหยัด ต่อสู้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน" พิธา กล่าว

พิธา กล่าวอีกว่า และจากที่ได้เดินทางไปขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลพบว่า ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะถึงอย่างช้าในหนึ่งปีข้างหน้า ประชาชนยังคงให้การตอบรับและจะสนับสนุนพรรคต่อไป นอกยังนี้หลายคนยังเอ่ยถามถึงวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ของพรรคก้าวไกลอย่างหนาหู ตนจึงอยากขอแรงสนับสนุนจากประชาชนอีกครั้ง ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครที่จะถึงนี้ เพราะตนเชื่อว่าทุกการเลือกตั้งคือโอกาสของการเปลี่ยนแปลง

ด้าน กรุณพล กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจอีกครั้งสำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ ตนยืนยันว่าหลังจากนี้จะยังคงทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเป็นผู้สมัครของพรรคก้าวไกลในเขตจตุจักร-หลักสี่ ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ตนยังคงรับงานแสดงและพิธีกร เพราะเป็นอาชีพที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องต่อไป แต่หลังจากว่างเว้นจากงานหลัก จะยังคงเข้าไปรับฟังปัญหาของประชาชนเพื่อผลักดันและส่งต่อให้พรรคก้าวไกลเข้าไปแก้ไขในสภาฯ เช่นเดิม