คุณภาพชีวิต
เตรียมแผนรับมือดินโคลนถล่มช่วงหน้าฝน - เฝ้าระวัง 'ภาคเหนือ-ใต้' มากสุด
นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงแผนรับมือธรณีพิบัติภัยในช่วงฤดูฝนปีนี้ว่า กรมทรัพยากรธรณีได้ศึกษาข้อมูลธรณีพิบัติภัยดินถล่มพบประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มในพื้นที่ 54 จังหวัด รวม 1,084 ตำบล ส่วนใหญ่เกิดช่วงฝนตกหนักบนพื้นที่ภูเขาสูงของภาคเหนือและภาคใต้ แบ่งเป็นภาคเหนือเกิดดินถล่มมากช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. เนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่าน
ภาคใต้เกิดดินถล่มช่วงเดือน ก.ย. - ธ.ค. เนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเฉียงเหนือมีแนวโน้มเกิดดินถล่มน้อยกว่าภาคเหนือและภาคใต้ แต่มีโอกาสเกิดดินถล่มช่วงเดือน พ.ค. - ก.ย. เนื่องจากอิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่าน
โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่มส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บริเวณที่ราบเชิงเขาและชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำตามร่องเขาที่ดินเคลื่อนที่ผ่าน ทั้งนี้มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังดินถล่ม คือ พื้นที่ที่มีความลาดชันสูงโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศจากลักษณะอากาศคาดการณ์ล่วงหน้า 2 เดือนพบมีฝนตกชุกมากขึ้นช่วงปลายเดือนมิ.ย. และตกชุกหนาแน่นประมาณเดือน ส.ค.
รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวย้ำว่ากรมทรัพยากรธรณีได้คาดการณ์พื้นที่ติดตามและเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี คือ จากการคาดหมายสภาพอากาศในช่วงระยะครึ่งหลังของเดือน ก.ค.ได้รับอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นส่งผลให้มีฝนตกชุกมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก คาดว่าปริมาณฝนเมื่อรวมกับบริเวณภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมากกว่าค่าปกติอาจทำให้บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
