นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทำการประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่(สสจ.เชียงใหม่)และสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต1(สบส.เขต1)จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำการตรวจสอบกรณีมีการแชร์ข่าวในอินเตอร์เน็ตว่าเกิดเหตุ “นวดเท้าแล้วแท้ง” ใน 3 ประเด็นคือ ร้านนวดที่เป็นข่าวมีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ พนักงานนวดในร้านมีใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพแล้วหรือไม่ และสาเหตุการช็อคของผู้รับบริการรวมถึงการเสียชีวิตของเด็กในครรภ์เกี่ยวกับการนวดหรือไม่
ด้านนายแพทย์ภัทรพลเปิดเผยว่าได้รับรายงานผลการตรวจสอบจากสสจ.เชียงใหม่และสบส. เขต 1 แล้วว่าร้านนวดดังกล่าวได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ประเภทนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่ใบอนุญาต สส500200343-60 และพนักงานนวดทุกคนมีใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯแล้ว โดยภายในร้านมีการแสดงข้อความคำเตือนว่า “ผู้มีอาการป่วยหรือตั้งครรภ์ต้องแจ้งแก่ผู้ให้บริการและต้องนวดด้วยความระมัดระวัง” ส่วนการนวดจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นแม่ช็อกและทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยจากแพทย์ของโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนอยู่เสมอว่าร้านนวดทุกร้านควรให้บริการด้วยความระมัดระวัง พนักงานควรสังเกตอาการของผู้มารับบริการตั้งแต่เดินเข้าร้านว่ามีอาการบาดเจ็บหรือมีความผิดปกติตรงไหนหรือไม่ ต้องมีการซักประวัติของผู้รับบริการก่อนที่จะให้บริการทุกครั้งว่ามีโรคประจำตัว บาดเจ็บ เคยผ่าตัด ประสบอุบัติเหตุ หรือกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ หากประเมินแล้วมีความเสี่ยงก็ไม่ควรให้บริการ ส่วนผู้รับบริการเองหากมีโรคประจำตัว บาดเจ็บ หรือตั้งครรภ์ก็ต้องแจ้งให้แก่พนักงานทราบด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ
ด้านนายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ลิ่มเลือดอุดตันนี้เกิดจากการนวดหรือไม่ เพราะยังมีข้อมูลน้อย ต้องนำข้อมูลมาประกอบทั้งการมีโรคประจำตัวหรือเปล่า แต่การนวดฝ่าเท้า แบบกดจุดไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเป็นการนวดเค้นน่อง จะค่อนข้างกังวล เพราะไม่รู้ว่าโดนอะไรบ้าง อย่าลืมว่าหญิงตั้งครรภ์ มดลูกจะใหญ่ขึ้น ก็จะไปกดเส้นเลือดที่อยู่ในท้อง ก็เป็นส่วนที่ต่อมายังบริเวณน่อง บริเวณขา ก็จะมีเลือดไปตกค้างอยู่ ไหลเวียนไม่สะดวก อาจมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในเส้นเลือดได้ หากไปนวดเค้นก็อาจเกิดปัญหา ลิ่มเลือดอาจหลุดออกมาวิ่งไปที่ปอดที่สมองได้ แต่ตามข่าวนี้ ข้อมูลยังไม่เพียงพอ
และโดยปกติหญิงตั้งครรภ์นิยมนวดกล่อมเพื่อให้เด็กกลับหัว ในอดีตผู้นวดต้องเป็นหมอตำแย ส่วนหญิงตั้งครรภ์ช่วงอายุที่อันตรายห้ามนวดเด็ดขาด ได้แก่ อายุครรภ์อ่อน - 3 เดือน และ 6-9 เดือน โดยการนวดของแพทย์แผนไทย ผู้ทำการนวดต้องผ่านการอบรม ตั้งแต่ 150 ชั่วโมง สามารถให้บริการนวดทั่วไป นวดเพื่อรักษาต้องผ่านการอบรม อย่างน้อย 1,300 ชั่วโมง