วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สามารถจัดเก็บรายได้สะสม 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - มกราคม 2568) เป็นเงิน 646,217 ล้านบาท สูงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 23,426 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.8 และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากร 7,588 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2) และสำหรับภาษีที่กรมสรรพากรจัดเก็บโดยตรง ไม่รวมหน่วยงานอื่น สามารถจัดเก็บได้ 488,065 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 25,973 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 5.6) และสูงกว่าประมาณการ 11,857 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.5)
ขณะที่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ (ภ.พ. 30) สะสม 4 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2568 จัดเก็บได้สูงกว่าปีก่อนเช่นเดียวกัน สามารถจัดเก็บได้ 20,730 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 13) และสูงกว่าประมาณการ 16,585 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 10.4) ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2568 สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า สูงกว่าปีก่อน 2,470 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 7.9) และสูงกว่าประมาณการ 804 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.4) เป็นผลมาจากการติดตามการจัดเก็บภาษีอย่างใกล้ชิด จึงทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสามารถจัดเก็บได้มากขึ้น
“ภาพรวมการจัดเก็บภาษีของไทยในปี 2568 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เกินเป้าหมาย และสูงกว่าปีก่อนในแต่ละประเภทภาษี สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ติดตามเฝ้าระวังความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆและพัฒนาโครงสร้างภาษีให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90/91 ประจำปีภาษี 2567
จึงขอให้ผู้มีเงินได้ถึงเกณฑ์ยื่นแบบฯ ตามที่กฎหมายกำหนด ให้ตรงตามข้อเท็จจริง โดยสามารถยื่นแบบฯ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2568 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161” นางสาวศศิกานต์ ระบุ