จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่รถบิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล และรัชนี สุภวัตรจริยากุล บิดาและมารดาของ พญ.วราลัคน์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.บวรภพ สุวรรณเลขา ผกก.สน.พญาไท และ พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศร รอง ผกก. (สอบสวน) สน.พญาไท เจ้าของคดี เพื่อติดตามคดีและให้การในส่วนของความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิตเพื่อประกอบสำนวนคดี 

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผู้ต้องหาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เมื่อเวลา 20.16 น. วันที่ 31 มกราคม 2565 เพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติม 2 ข้อหา ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของบุคคล พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 43(8) และขับรถจักรยานยนต์ ในทางเดินรถในเขตกรุงเทพฯใช้อัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 67 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

มีรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ถูกแจ้งข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นรวม 7 ข้อหา รวมรับข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา รวมเป็น 9 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ฐานขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย

2.ความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ฐานนำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

3.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย

4.ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม)

5.พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหา ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี

6.ไม่จัดให้รถในทางเดินรถมีส่วนควบที่ครบถ้วนตามกฎหมายและใช้การได้ดี

7.ไม่จัดให้มีการประกันภัยตาม

8.พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถปี 2535 ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น

9.ขับขี่ รถเร็วเกิน เกินกฎหมาย กำหนด

พ่อ 'หมอกระต่าย' อยากให้มีการรับโทษสูงสุด

นพ.อนิรุทธ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเพียงมาแสดงตัว และแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่หลบหนีคดี แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายในคดีนี้ ทางครอบครัวอยากให้มีการบังคับใช้กฎหมายและลงโทษขั้นสูงสุดกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้ที่กระทำผิดกฎจราจรขับรถชนผู้อื่นเสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย ให้เป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงระเบียบวินัยจราจร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก

ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียหมอกระต่ายไป อย่างไรก็ตาม ญาติจะนำอัฐิหมอกระต่ายไปทำพิธีลอยอังคารที่จังหวัดตราด ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

ส่วนการทำงานของตำรวจทางครอบครัวไม่ติดใจในการดำเนินการทางคดี แต่ยอมรับว่ามีข้อสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับเอกสารประจำตัวของลูกสาวที่ถูกเจ้าหน้าที่นำติดกลับไปที่ สน.จนทำให้การยืนยันตัวบุคคลเป็นไปด้วยความล่าช้า และลูกสาวกลายเป็นศพหญิงไม่ทราบชื่ออยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งในประเด็นที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการชี้แจงตนเองยังไม่ได้ดูในรายละเอียด แต่เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันในวันเกิดเหตุมีการประสานติดต่อบ่อยครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทางครอบครัวมีรายละเอียดขั้นตอนระยะเวลาในการติดต่อไว้ครบทุกขั้นตอนยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดตอนนี้

แม่ 'หมอกระต่าย' ห่วงลูกสาวคนเล็ก

ขณะที่ รัชนี มารดาของหมอกระต่าย ระบุว่า นอกจากเรื่องของคดีความทางครอบครัวยังมีความเป็นห่วงจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากตัวบุตรสาวคนเล็กยังมีการเรียนและทำงานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต้องเดินทางข้ามถนนในลักษณะแบบนี้บ่อยครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคนโต ทำให้ทางครอบครัวยังรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกสาวคนเล็ก และอาจทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียอีกเพราะทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ 

ด้าน ณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อหาที่มีการแจ้งไป ณ ตอนนี้ 9 ข้อหา ยังไม่มีข้อติดใจใด ส่วนจะมีข้อหาเพิ่มหรือไม่ จะขอปรึกษากับทางครอบครัวคุณหมออีกครั้งก่อนว่ามีข้อสงสัยในประเด็นอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ส่วนการดำเนินการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยถึงเรื่องมูลค่าความเสียหายที่จะมีการเรียกร้องยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติสามารถฟ้องควบคู่กับการฟ้องคดีอาญาได้แต่ทางครอบครัวจะขอให้ทางคดีอาญามีการดำเนินการและนำเข้าสู่ศาลยุติธรรมก่อนถึงจะมีการพิจารณาในการฟ้องคดีแพ่งเพิ่มเติม

ทนายความยังระบุอีกว่า กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณหมอกระต่ายไม่อยากให้เป็นเพียงบทเรียนที่ถูกปล่อยผ่านไปอยากให้มีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้สูงสุดเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนน มีวินัยเคารพกฎจราจรมากกว่านี้เพื่อไม่ให้การเสียชีวิตของคุณหมอกระต่ายเป็นการสูญเสียที่ต้องเปล่าประโยชน์ไป

ผกก.สน.พญาไท ยันส่งฟ้องทัน 11 ก.พ.นี้

ขณะที่ ด้าน พ.ต.อ.บวรภพ ผู้กำกับการ สน.พญาไท ระบุว่า ที่มีการเชิญคุณพ่อและคุณแม่รวมถึงครอบครัวของคุณหมอกระต่ายเข้าให้ปากคำในฐานะผู้เสียหายในวันนี้เพื่อเป็นการสอบปากคำเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับตัวผู้ตายรวมถึงประวัติการศึกษาต่างๆ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีอาญาในการส่งฟ้อง ซึ่งส่วนตัวได้มีการยืนยันกับทางครอบครัวว่า การดำเนินการทางคดีของพนักงานสอบสวนสน.พญาไทจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ขอให้ทางครอบครัวเชื่อใจการทำงานของตำรวจพญาไทว่า จะไม่มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาอย่างแน่นอน ซึ่งสำหรับสำนวนคดีนี้จะสามารถดำเนินการส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการได้ทันตามกำหนดคือวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน