3 พ.ย. 2566 ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ ซึ่งเกิดจากแนวคิดในการผลักดันให้ทูตพาณิชย์เป็นทัพหน้าร่วมกับพาณิชย์จังหวัด และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการจัดระบบโครงสร้างภายในภูมิภาคและต่างประเทศ โดยพาณิชย์จังหวัดต้องสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามบริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด หรือ Area-based Agenda อาทิ การนำจุดเด่นของกลุ่มจังหวัดมาผสมผสานเพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้าและบริการ การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจการค้าโดยใช้ความต้องการของตลาดเป็นตัวตั้ง (Demand-driven) และค้นหาจุดแข็ง/ศักยภาพเชิงพื้นที่ของกลุ่มจังหวัด (Strategic Position) รวมทั้งยกระดับผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้เกาะเกี่ยวในห่วงโซ่ไปสู่ตลาด ส่งเสริมการค้าระหว่างภาค และเชื่อมโยงกับทูตพาณิชย์ซึ่งเป็นด่านแรกที่จะพบผู้ค้ารายใหม่ไปยังต่างประเทศ โดยมีการวางแผนงานการดำเนินงาน เป้าหมาย และประเมินความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ในการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ พาณิชย์จังหวัดจะมีบทบาทในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากสินค้าเกษตรเฉพาะถิ่น นวัตกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม เกษตรอินทรีย์ และ GI รวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าเหล่านี้ ทั้งภายในประเทศและในตลาดเป้าหมาย ตลอดจนแสวงหาโอกาสทางการตลาดรองรับการปลูกพืชทางเลือกต่างๆ โดยมุ่งเน้นการค้าสินค้าเกษตรคุณภาพที่ผ่านการรับรอง สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ภูมิภาค โดยวางแผนร่วมกันระหว่างภาคีตลอดห่วงโซ่มูลค่า
พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์จะต้องมีบทบาทเป็นกลไกเชิงรุก ในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ในประเด็นต่างๆ โดยวางระบบติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เพื่อเตรียมการตอบสนองข้อเรียกร้อง และรับมือกับปัญหาล่วงหน้าได้ โดยสื่อสารใกล้ชิดกับประชาชน และมี กลยุทธ์การสื่อสารที่สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายและวิถีชีวิตเกษตรกรเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละพื้นที่ และต้องมองให้เห็นถึงจุดเด่นและศักยภาพที่แต่ละจังหวัดจะนำมาเชื่อมโยงให้เกื้อกูลกันได้ เพื่อตอบสนองตลาดทั้งภายในและประเทศ รวมทั้งมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับท้องถิ่น ภาค และต่างประเทศ หรือ Linking Local to Regional and Global Economy
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เผยจากการประชุมว่า ได้มอบหมายให้ฑูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดค้นหา Influencer หรือ ผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางให้คนรู้จักสินค้าไทยมากขึ้นด้วยการรีวิวสินค้า ให้แก่กับผู้ติดตามได้รับชม เพื่อโน้มน้าวให้คนสนใจและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตามในการซื้อสินค้าและบริการ และมอบหมายให้ทูตพาณิชย์ค้นหาร้าน Thai SELECT จำนวน 5 ร้านในแต่ละประเทศเพื่อเป็นที่จัดแสดงสินค้าไทยและสะท้อนภูมิปัญญาของไทย เช่น อาหาร เพลง มวยไทย เป็นต้น ผลักดันให้เป็น Soft Power