มูลนิธิมานุษยะ กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี เครือข่ายสลัม 4 ภาค และองค์กรกองทุนเพื่อการทำแท้งปลอดภัย (SAAF) จัดกิจกรรมหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301 และแก้ไขมาตรา 305 เพื่อเอื้อให้แพทย์สามารถยุติการตั้งครรภ์ให้กับผู้หญิงได้ในอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ และให้บริการยุติการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ในกรณีที่มีความจำเป็น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดทางอาญา
ทั้งนี้ สิทธิในการเข้าถึงการทำแท้งที่ปลอดภัยจะเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองจากกติกาสากลระหว่างประเทศหลายฉบับ และประเทศไทยเองก็มีเครือข่ายแพทย์อาสาส่งต่อยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยรวมทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการยุติการตั้งครรภ์ครั้งละ3,000 บาท มาตั้งแต่ปี 2559 และมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การเปิดให้มีบริการทำแท้งที่ปลอดภัยช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยลงได้
ทั้งนี้ เห็นว่า ในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้เสียงของผู้หญิงที่ทำแท้ง และเสียงของประชาชนที่สนับสนุนให้ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 301 ที่ลงโทษผู้หญิงที่ทำแท้ง ไม่ได้รับการรับฟัง และให้ความสำคัญอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ที่มีชื่อว่า 'สีดาลุยไฟ' โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ทำแท้งที่ปลอดภัย
ด้าน ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก เครือข่ายภาคประชาสังคมดังกล่าว โดยธณิกานต์ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวขณะนี้มีประเด็นข้อถกเถียงกันในเรื่องสิทธิเสรีภาพของสตรีว่ามีอิสรภาพในการทำแท้งอย่างไรบ้าง และประเด็นความคุ้มครองของทารกที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งร่างของรัฐบาลได้เสนอให้ทำแท้งได้ในอายุครรภ์12 สัปดาห์และ24สัปดาซึ่งทางกลุ่มทำทางได้เสนอความเห็นสนับสนุนการทำแท้งได้ในอายุครรถ์ 24สัปดาห์
โดยตัวแทนกลุ่มทำทางและเครือข่ายภาคประชาสังคม กล่าวว่า เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา301 โดยยืนยันว่าสนับสนุนให้ทำแท้งได้ในอายุครรภ์ที่ 24 สัปดาห์ เพราะมีวิจัยว่า ตัวอ่อนจะมีชีวิตรอดน้อย และให้ทำแท้งเฉพาะคนที่จำเป็นจริงๆ ที่เข้าไม่ถึงข้อมูล ทางกลุ่มมองเห็นเจตนาดีในการแก้กฎหมายเพื่อคุ้มครองชีวิตผู้หญิงไม่ให้เสียชีวิตจากการทำแท้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง