การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาภัยแล้ง และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดเรื่องการใช้งบประมาณ 22,400 ล้านบาท ไปดำเนิน การโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งสองกระทู้เป็นการถามนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงแทน ต่างติดภารกิจไม่สามารถมาตอบกระทู้ได้ ทำให้นายครูมานิตย์และนายจิรายุแสดงความไม่พอใจที่ไม่มีใครมาตอบกระทู้ชี้แจงของ ส.ส. จึงพากันต่อว่ารัฐบาล
ในที่สุดนายชวนจึงเสนอให้นายจิรายุสามารถถามกระทู้ได้ เพียงแต่จะไม่มีผู้มาชี้แจง ซึ่งนายจิรายุก็ยินยอมตั้งกระทู้ถามว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นการจับโครงการชิมช็อปใช้มาแต่งหน้าทาปาก ทั้งที่ขณะนี้รัฐบาลไส้แห้งแล้ว ยังทำโครงการเสนอมาอีก อย่าไปโทษโรงแรมที่ขึ้นราคาห้องพัก เพราะช่วงโควิดระบาด โรงแรมต่างๆ พากันลดราคาลงมา เพื่อให้คนมาท่องเที่ยว แต่เมื่อรัฐบาลทำโครงการนี้ขึ้น โรงแรมต่างๆ จึงกลับไปใช้ราคาห้องพักเดิม ดังนั้นโรงแรมไม่ได้ผิด แต่เป็นเพราะรัฐบาลใช้วิธีประชานิยมมาแก้ปัญหา และยังใช้วิธีเดิมๆ จองผ่านแอปพลิเคชั่น ทำให้คนสูงอายุที่อยากเที่ยว แต่ใช้แอปฯ ไม่เป็น เข้าร่วมโครงการไม่ได้ ไม่รู้รัฐบาลนี้กินปลาน้อยไปหรือไม่
จากนั้น นายจิรายุ แถลงข่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับปัญหาโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ และกระทู้ภัยแล้งของ นายครูมานิตย์ แต่เป็นการถามแบบไม่มีผู้ตอบ โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ถ้าปล่อยให้ล่าช้าโดยอีก 4 วันข้างหน้า จะใช้เงินจากการท่องเที่ยวเพราะเป็นการหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.ค. 2563
"จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีว่า หากมีปัญหาแล้ว ไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาของประชาชนเลย แต่ต้องมอบหมายให้รัฐมนตรีมาสแตนบายตอบคำถาม วันนี้กระทู้ของฝ่ายค้านใช้วิธีการติดภารกิจแล้วเลื่อนไปก่อน แล้วถ้ามีเรื่องฉุกเฉิน เช่น ยิงขีปนาวุธ ต้องให้ยิงไปก่อนแล้งค่อยเลื่อนมาตอบหรือ? ถ้ารัฐบาลมาตอบคำถามเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ก็ให้ยุบสภาแล้วลาออกไป" นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวย้ำว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน คือโครงการที่เปลี่ยนมาจากชิมช้อปใช้ แต่ไม่สามารถเรียกรายได้เข้าประเทศอย่างแท้จริง แล้วแจกเงินแบบ Helicopter Money ในเนื้อหาเหมือนจะดี แต่โรงแรมต่างๆ ที่เคยลดราคา พอมีโครงการนี้ขึ้นก็กลับไปอัพราคาขึ้นเหมือนเดิม พวกเขาไม่ได้ผิด แต่ปัญหาคือรัฐต้องเขียนข้อบังคับหรือรายละเอียดให้ถี่ถ้วนชัดเจน และทุกวันนี้คนก็ไม่ได้จองที่พักผ่านโครงการ แต่เป็นการจองทางเว็บหรือเดินไปจอง อีกด้านที่รัฐบาลต้องทำคือ การกำหนดเงื่อนไขค่าเดินทางท่องเที่ยวของ อสม. และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่ฃเสริมสุขภาพประจำตำบลคนละไม่เกิน 2,000 บาท แต่ต้องเดินทางท่องเที่ยวไม่เกิน 2 วันตามสถานที่ท่องเที่ยวที่รัฐกำหนด ซึ่งบางคนไม่ต้องการไปเที่ยวตามสถานที่นั้น เพราะอยู่ไกลเกินไป และต้องรวมกลุ่มกันไปเที่ยว ดังนั้นเมื่อล็อกเมนูไว้ แล้วบริษัททัวร์ธรรมดาทำไม่ได้ อาจเป็นการล็อกสเปกบริษัทที่จะมานำเที่ยวตรงนี้ ซึ่งใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท แล้วรัฐบาลบอกว่าจะมาตอบสัปดาห์หน้า นายจิรายุ เปรียบเทียบว่า “กว่าผีจะเน่าโรงก็ผุ” พร้อมกล่าวอีกว่าถ้าเศรษฐกิจดีไม่ต้องให้ใครมาแจกก็ไปเที่ยวเองได้อยู่แล้ว
ด้านนายครูมานิตย์ กล่าวว่า เสียความรู้สึก เพราะ ครม. ไม่มาตอบทั้งสองกระทู้ เช่นเดียวกันครั้งที่แล้วก็ไม่มาตอบ เห็นได้ว่า ครม. เริ่มพิการ เพราะคนมีน้อย แต่ถึงจะน้อยอย่างไรก็ให้มาตอบ รัฐสภาไม่ใช่ตรายาง การให้ข้าราชการระดับ 5 ระดับ 6 มารับปัญหาร้องเรียนในกรรมาธิการก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ไม่มีข้าราชการที่มีอำนาจเต็ม หรือตัดสินใจได้มาตอบคำถามเหมือนกัน ตอนนี้จะปรับ ครม. ก็รีบปรับ เพราะมีปัญหาเดือดร้อนกันไปหมด ถ้ายิ่งรอช้าก็จะยิ่งเกิดปัญหาหนัก