หน่วยงานสาธารณสุขเขตตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐมิชิแกนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายราย หลังจากที่เข้าร่วมเทศกาลเฉลิมฉลองวันชาติที่ทะเลสาบทอร์ชเลกในรัฐมิชิแกน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ออกประกาศเตือนประชาชนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ที่เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองดังกล่าวให้ระวังการติดเชื้อ หลังจากที่ผู้ที่ได้รับการตรวจว่าติดเชื้อโควิดนั้นไม่สามารถระบุได้ว่าติดต่อหรือสัมผัสกับผู้ใดในงานเฉลิมฉลองบ้าง โดยทางเจ้าหน้าที่คาดว่าในเร็วๆ นี้อาจจะมีความเสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังระบุว่า หากมีอาการของโรคโควิดให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อ
ด้านรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 15,299 ราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 45 ราย ภายใน 24 ช.ม. ทำให้ฟลอริดามีผู้ติดเชื้อโควิดแล้วกว่า 269,811 ราย ซึ่งมีจำนวนมากกว่าผู้ติดเชื้อในอีกหลายประเทศทั่วโลก
รายงานของรัฐฟลอริดาระบุว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผู้เสียชีวิตในรัฐนั้นสูงถึง 514 ราย ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยถึง 73 รายต่อวัน ขณะที่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน อัตราการเสียชีวิตมีเพียง 30 รายต่อวันเท่านั้น
แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในฟลอริดามีแนวโน้มที่จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ยังคงดำเนินการเป็นปกติ และสวนสนุกอย่างดิสนีย์เวิลด์ในฟลอริดาก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งท่ามกลางความกังวลในการรวมกลุ่มของประชาชนที่อาจนำไปสู่การแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
ด้านรอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดายังเรียกร้องให้เปิดโรงเรียนเพื่อทำการเรียนการสอนในชั้นเรียนตามตารางเรียนปกติที่มีกำหนดเริ่มขึ้นในเดือนหน้านี้ โดยชี้ว่ายังไม่มีการพิสูจน์ว่าเด็กๆ นั้นเป็นพาหะหรือเป็นกลุ่มที่แพร่เชื้อโควิดในวงกว้างกว่ากลุ่มอื่นๆ และยังกล่าวว่าการปิดโรงเรียนนั้นสร้างช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างนักเรียนที่มีประสิธิภาพทางการเรียนสูงและต่ำให้ห่างกันออกไปยิ่งขึ้น
ขณะที่ในรัฐแอริโซนา ครู 3 รายในรัฐตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดฯ หลังจากใช้ห้องเรียนในการสอนร่วมกัน แม้ว่าในชั้นเรียนต่างๆ นั้นจะมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และใส่หน้ากากอนามัยป้องกันแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ในรายงานระบุว่า 1 ใน 3 ของครูที่ติดเชื้อนี้ได้เสียชีวิตแล้วเช่นกัน
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดแล้วกว่า 3,413,995 และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้ว 137,782 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นสะสมแตะ 13,032,856 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 571,356 ราย
ที่มา CNN / The Guardian / Worldometers