นายธนา​ธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมงาน เดินทางเยือน จ.ร้อยเอ็ด ให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ น้ำท่วมฉับพลัน​ โดนหลายพื้นที่น้ำท่วมสูง ถนนและสะพาน​ถูกตัดขาด ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ได้มีการตั้งศูนย์แจ้งเรื่องร้องเรียนน้ำท่วม เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประสานการเข้าไปช่วยเหลือ ให้กำลังใจพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็มีสายด่วน HOT LINE เบอร์โทร. 092-6253578 

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า นายธนาธร เดินทางถึงสนามบินร้อยเอ็ด มีประชาชนที่ทราบข่าวมารอต้อนรับเป็นจำนวนมา จากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านแดง ต.เหนือเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ท่วมทุกปี แต่ท่วมแล้วลดเร็ว หากแต่ในปีนี้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์​แล้ว โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ​รอรัฐบาล​ให้ค่าชดเชย ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่าอยากให้ช่วยทำประตูกั้นน้ำ และทำท่อระบายน้ำไปจนถึงห้วยที่ตัดผ่านหลังหมู่เพื่อระบายน้ำ เพราะปัจจุบัน​น้ำไม่มีที่ระบาย ทำให้ท่วมขังพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน 

นายธนาธร กล่าวว่า ขอให้กำลังพี่น้องที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เข้าใจว่าหมู่บ้านนี้เป็นที่รับน้ำให้กับคนในเมืองร้อยเอ็ด​ทุกปี และจากที่ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้าน ได้เห็นถึงความสำคัญของการมีอุโมงค์​ท่อระบายน้ำ เพื่อทำให้น้ำไม่ท่วมขัง และจะนำเรื่องนี้จะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร​ ของพรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ในสภาฯ นำไปปรึกษาหารือ​กับหน่วยงานราขการที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อที่ปีต่อๆไปน้ำจะได้ไม่ท่วมขัง แต่ในปีนี้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้พืชผลทางการเกษตร​เสียหาย​ และอยากจะฝากถึงรัฐบาลให้เข้ามาเยียวยาชาวบ้านในพื้นที่นี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายธนาธรพร้อมทีมงานได้เดินทางต่อไปที่ โรงเรียนอนุบาล​โพนทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีทีมงานพรรคอนาคตใหม่จากจังหวัดนครราชสีมา​และบุรีรัมย์​ นำของบริจาค มอบให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยในส่วนของโรงเรียนอนุบาล​โพนทองนั้น ก็ได้รับความเสียหายจากอุบัติภัยครั้งนี้เป็นอย่างมาก 

นายสุรพล พิมพิลา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลโพนทอง ระบุว่า วันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวันจากอิทธิพล​พายุโซนร้อนโพดุล โดยมวลน้ำส่วนใหญ่ไหลมาจากทางทินะ ศตะวันตกเฉียงเหนือ มวลน้ำได้ไหลล้นตลิ่งลำห้วยโพนทอง ไหลเข้าท่วมตัวอำเภอ และโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที ส่งผลให้รั้วทั้งสองฝั่งของโรงเรียน พังทลายลงมา น้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนสูงประมาณ​ 2 เมตร โดยมีครูและนักเรียนติดอยู่ในโรงเรียนกว่า 400 ชีวิต ห้อง​คอมพิวเตอร์​ของโรงเรียนเสียหายทั้งหมด โต๊ะเรียนและหนังสือได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายธนาธร เดินทางต่อไปยัง บ้านน้ำจั่นน้อย ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ​ ซึ่งพื้นที่ทั้งตำบลนี้น้ำท่วมสูง เป็นระยะเวลากว่า 6 วันแล้ว ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด จากมวลน้ำที่หลากเข้ามา สาเหตุเกิดจากพนังกั้นน้ำแตกบริเวณท้ายหมู่บ้าน ทำให้ไม่สามารถ​ชะลอมวลน้ำเอาไว้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากไม่สามารถสัญจร​เข้าออกหมู่บ้านได้โดยรถจักรยานยนต์​หรือรถยนต์​ขนาดเล็ก ประชาชนจึงต้องการของยังชีพอีกจำนวนมาก

โดย นางแสงดาว ปานเกิด ปลัดอำเภอเสลภูมิ​ ระบุว่า ปกติน้ำจะไม่ท่วมขนาดนี้ ที่ผ่านมาหากน้ำล้นพนังกั้นน้ำ มวลน้ำก็จะไหลเข้าท่วมแต่ไม่นาน แต่อุบัติภัยในครั้งนี้พนังกั้นน้ำแตก มวลน้ำจึงขังภายในหมู่บ้านรวมทั้งพื้นที่การเกษตรเป็นเวลานาน