เขาเริ่มเข้าสู่วงการ NFT เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและมีคนมาติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ โดยงานส่วนใหญ่ของ ‘นล’ จะสร้างสรรค์ออกมาเสมือนอยู่ในโลก ดิสโทเปีย (Dystopia) เช่น งานชื่อ ‘ฉลอม’ ภาพ 3D ของเมืองกรุงเทพฯ ที่เกิดภัยพิบัติ ซึ่ง ‘นล’ ใช้โปรแกรม Blender และ After Effect สร้างสรรค์ออกมา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แนวไซ-ไฟ อย่าง สตาร์ วอร์ส, เบลด รันเนอร์ 2049
‘นล’ ชอบวาดภาพมาตั้งแต่ตอน ป.4 เขาเห็นเพื่อนทำงานศิลปะและคุณครูสอน จึงสนใจและเริ่มต้นทดลองทำด้วยตนเอง
“ผมเห็นเพื่อนทำและคุณครูก็สอน ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้ได้ลองทำมาตั้งแต่ตอนนั้น งานศิลปะส่วนใหญ่ของผมจะเป็นประเภท 2 มิติ และ 3 มิติ ซึ่งงาน 3 มิติ ผมเพิ่งเริ่มทำเมื่อสองเดือนก่อน ตอนเริ่มต้นแรกๆ ก็ค่อนข้างยากเหมือนกันพอใช้ไปจนชินเราก็เริ่มชำนาญ”
‘นล’ เล่าว่าที่โรงเรียนจะมีสอนให้ทำงาน 2 มิติ และ 3 มิติ โดยใช้โปรแกรม Photoshop และโปรแกรม google sketchup แต่เขาจะใช้โปรแกรม Blender และ After Effect สร้างงานศิลปะ ซึ่งเขาเรียนรู้เองจากยูทูบ นอกจากนี้ครอบครัวของเขายังสนับสนุนและส่งเสริมในด้านนี้ด้วย โดยมีคุณพ่อที่เป็นอาจารย์สาขาดิจิตัลมีเดีย คอยช่วยสอนอยู่เสมอ
ภาพผลงานของ สินล กิตติมงคลสุข
สำหรับ NFT ‘นล’ เพิ่งเปิดได้ไม่นานและเขาค่อนข้างชอบวงการนี้
“ผมเห็นจากเฟสบุ๊กและยูทูบก่อน ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าคืออะไร ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว จากนั้นผมก็เปิดทวิตเตอร์และโพสต์งานแรกลงไป ชื่องานว่า ‘ฉลอม’ ปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี จากนั้นก็มีคนมาชวนให้เปิด NFT
ผมค่อนข้างชอบนะ คิดว่ามันคล้ายกับยูทูบในเวอร์ชันแรกที่เพิ่งเปิดตัวแต่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเยอะ ซึ่งถ้าเกิดโลกเขาเปลี่ยนมาใช้เงินแบบคริปโตกันแล้ว ก็อาจจะดังขึ้นในฐานะที่เป็นแหล่งรวมงานศิลปะและสื่อบันเทิง
ตอนนี้ก็ยังไม่มีคนเข้ามาซื้องานแต่ผมก็เปิดไว้ ซึ่งผมตั้งราคางานที่คิดว่ามันเหมาะสม ไว้ที่ประมาณ 0.1 ETH หรือประมาณ 15,000 บาท
ส่วนงานที่ผมสร้างขึ้นจะคล้ายกับเป็นเมืองกรุงเทพฯ ที่มีภัยพิบัติในโลกดิสโทเปีย (Dystopia) บรรยากาศจะอยู่ในยุค 70's - 80's สีจะค่อนข้างอบอุ่น ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แนวไซ-ไฟ อย่าง สตาร์ วอร์ส, เบลด รันเนอร์ 2049
ที่ผมสร้างเมืองกรุงเทพขึ้นมาเพราะผมชอบแนววิทยาศาสตร์ ผมอยากจะเห็นหนังแนวนี้ ซึ่งมันไม่ค่อยมีหนังที่ตอบโจทย์ ผมก็เลยสร้างมันขึ้นมาเองซะเลย”
ภาพผลงานชื่อ 'ฉลอม' โดย สินล กิตติมงคลสุข
‘นล’ เล่าต่อว่าในโลกแห่งความจริงเขาไม่ได้อยากเห็นกรุงเทพฯ เป็นแบบนั้น เพราะมองว่าไม่ค่อยน่าอยู่ ซึ่งเขาอยากให้กรุงเทพฯ เป็นแบบโลกยูโทเปีย (Utopia) มากกว่า
“อย่างแรกที่ผมอยากเห็นเลยคือ ผังเมืองกรุงเทพฯ ที่ดี ระบบการระบายนํ้าที่ดี และเรื่องความปลอดภัยของทางเท้าและถนน เพราะมันเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ”
เมื่อถามถึงผู้ว่ากรุงเทพฯ ในอนาคตและนายกฯ ที่อยากได้
เขาบอกว่าอยากให้ผู้ว่ารับฟังความคิดเห็นของทุกคน และอยากให้นายกส่งเสริมงานด้านนี้พร้อมทั้งเห็นค่าของคนทุกคน
“ประเทศไทยในตอนนี้ยังไม่ค่อยดี ยังพัฒนาช้า สู้ประเทศอื่นไม่ค่อยได้ อยากให้ประเทศพัฒนาได้ไกลและเร็วกว่านี้
สำหรับนายกรัฐมนตรีในฝัน ผมอยากได้คนที่มีความสามารถ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทำงานรวดเร็ว ไม่มีผิดพลาด ซึ่งคนปัจจุบันผมยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
ผมคิดว่าความคิดเห็นมันมีหลากหลายแต่การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเยอะๆ ก็น่าจะดี เพื่อที่จะมีแนวทางในการแก้ปัญหาได้ดีกว่า”
ภาพผลงานของ สินล กิตติมงคลสุข
เด็กคืออนาคตของชาติ
“ผมคิดว่าเด็กรุ่นใหม่มีความสำคัญเพราะเป็นคนที่จะมาพัฒนาประเทศต่อ อยากให้ประเทศพัฒนาได้เร็วกว่านี้ อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเรื่องอาชีพ สวัสดิการ สาธารณสุข และการศึกษา
สำหรับการศึกษาผมมองว่าหลักสูตรในปัจจุบันมันค่อนข้างที่จะล้าหลัง ถ้าพัฒนากว่านี้ก็พอจะทันเขาอยู่บ้าง อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์เก่าๆ อยู่
ผมคิดว่าการศึกษามันยังไม่ค่อยตอบโจทย์เด็กในปัจจุบันเท่าไหร่ ถ้าหากให้เด็กค้นหาตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเองก็อาจจะดีกว่าสำหรับบางคน ส่วนในเรื่องกฎระเบียบที่ล้าหลังต่างๆ ควรต้องจะปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาได้แล้ว อย่างเรื่องทรงผมที่ผมเคยเห็นในเฟสบุ๊ก บางอย่างก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล” สินล กล่าว
‘นล’ มีงานอดิเรกคือ วาดรูป ทำกราฟิกและเล่นเกม ในอนาคตโตขึ้นเขาอยากประกอบอาชีพจากสิ่งที่เขาชอบ
“เพราะผมชอบวาดรูปมาตั้งแต่ประถม แต่ก็เจอสิ่งที่ตัวเองชอบมาเมื่อไม่กี่ปีนี้ ผมอยากเป็นผู้กำกับภาพหรือไม่ก็สถาปนิก ผมคิดว่าการเจอสิ่งที่ตัวเองชอบได้เร็วมันก็ดี เพราะว่าเราจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปทำกิจกรรมยามว่างที่เราชอบ
ผมคิดว่าทำสิ่งที่เรามีความสุขและมีประโยชน์ไปด้วยพร้อมกันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” สินล กล่าว
ติดตามผลงาน สินล กิตติมงคลสุข ได้ที่ : https://www.artstation.com/sinolkitti