คำสั่งระงับกระบวนการการรับรองผลการรับรองในครั้งนี้ เป็นผลเนื่องมาจากที่พรรคการเมืองจำนวนหนึ่ง ยื่นให้มีการตรวจสอบการลงคะแนนการเลือกตั้ง ซึ่งศาลได้ตัดสินเข้าออกมาตามคำร้อง จึงให้มีการระงับกระบวนการการรับรองผลการเลือกตั้งไว้ก่อน
หลังจากคำสั่งระงับกระบวนการรับรองการเลือกตั้งมีออกมาจากทางศาลกัวเตมาลา สหรัฐฯ และองค์กรระหว่างประเทศต่างวิพากษ์วิจารณ์การระงับการรับรองผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการไม่เคารพต่อมติของประชาชนกว่า 2.2 ล้านคนที่ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง
สถานการณ์ผลการเลือกตั้งกัวเตมาลาในวันที่ 25 มิ.ย. มี ซานดรา ตอร์เรส อดีตสตีหมายเลขหนึ่ง แคนดิเดตจากพรรค UNE ฝ่ายขวากลาง ได้คะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 ที่ 15.8% ในขณะที่แคนดิเดตอันดับที่ 2 จากพรรค Seed Movement พรรคฝ่ายซ้ายกลางอย่าง เบร์นาร์โด อาเรบาโล ผู้ซึ่งเป็นบุตรของ ฆาโกโบ อาร์เบนซ์ อดีตประธานาธิบดีที่ถูกโค่นล้มอำนาจโดย CIA ได้คะแนนตามมาที่ 11.7%
ทั้งนี้ ตอร์เรสถูกมองว่าเป็นแคนดิเดตที่จะสืบทอดอำนาจจากรัฐบาลเดิม ในขณะที่อาเรบาโลเสนอตัวว่าจะมาปราบปรามการทุจริต
ในการเลือกตั้งแคนดิเดตครั้งนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้น 29 คน โดยผู้ใช้สิทธิส่วนมากกลับลงคะแนนงดออกเสียงและมีบัตรเสีย คิดเป็น 17.3% ซึ่งเป็นผู้ใช้สิทธิที่ต้องการประท้วงรัฐบาลชุดปัจจุบัน และอาจเป็นผู้ที่ไม่ได้มีแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งในดวงใจ อย่างไรก็ดี เมื่อไม่มีแคนดิเดตคนใดได้คะแนนมมากกว่ากึ่งหนึ่ง กัวเตมาลาจึงจะต้องจัดการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ระหว่างแคนดิเดตอันดับ 1 และ 2
ในช่วงการนับคะแนนเสียงหลังการเลือกตั้ง การนับคะแนนเบื้องต้นใช้การรวมผลคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยคะแนนทั้งหมดจะต้องผ่านการประกาศผลอย่างเป็นทางการจากศาลการเลือกตั้งของกัวเตมาลาก่อน
อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองของกัวเตมาลากว่า 10 ใน 29 พรรคที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน ซึ่งพวกเขาอ้างว่ามีการพบปัญหาในการนับคะแนน และคะแนนของพรรคตัวเองได้หายไปขณะการส่งผลคะแนน โดยคำร้องดังกล่าวเป็นไปเพื่อการขอให้ศาลสั่งหยุดการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ พรรคที่ยื่นคำร้องต่อศาลนั้นกลับไม่มีพรรคใดเลยที่ได้คะแนนเสียงมากกว่า 8%
ศาลกัวเตมาลาได้สั่งระงับการนับคะแนนดังกล่าวตามคำร้อง และสั่งให้มีการเปรียบเทียบผลรวมคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้ง กับคะแนนที่รายงานออกมาจากแต่ละหน่วยเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ด้วยการหาผลรวมและเปรียบเทียบผลคะแนนกับผลการนับคะแนนเบื้องต้น นอกจากนี้ ศาลยังชี้อีกว่าอาจจะต้องมีคำสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่หากจำเป็น ถึงแม้ว่าในกฎหมายจะไม่ได้มีบทบัญญัติไว้
หลังจากคำสั่งดังกล่าว เขตเลือกตั้งต่างๆ มีเวลา 5 วันในการรายงานผลการนับคะแนนของแต่ละหน่วยเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะมีคำสั่งอื่นใดจากศาลออกมาใหม่ได้ หลังจากการนับคะแนนใหม่ ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศให้ความเห็นว่า การเลือกตั้งของกัวเตมาลาในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างยุติธรรม และผู้สังเกตการณ์ให้ข้อสังเกตว่า การนับคะแนนใหม่นั้นไม่จำเป็นจะต้องมีขึ้น ภายใต้กฎหมายของกัวเตมาลาในขณะนี้
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนชาวกัวเตมาลาในการใช้สิทธิเลือกผู้นำของตัวเองผ่านการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม และสหรัฐฯ เป็นกังวลอย่างมากจากสถานการณ์ที่มีความพยายามที่จะแทรกแซงผลการเลือกตั้งในวันที่ 25 มิ.ย. ของกัวเตมาลา
ที่มา: