ไม่พบผลการค้นหา
ในครึ่งแรกของปีนี้ หัวเว่ยทำรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 23 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หัวเว่ยทำรายได้สูงขึ้นร้อยละ 23.2 เป็น 401.3 พันล้านหยวน (ราว 1,800 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 8.2

โทรศัพท์สมาร์ตโฟนของหัวเว่ยมียอดจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 118 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณาเป็นรายไตรมาสแล้วพบว่าอัตราการเติบโตของหัวเว่ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาสที่สองของปี หลังมาตรการของสหรัฐฯ เข้มข้นขึ้น

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้บัญชีดำ (entity list) หัวเว่ยไม่สามารถขอซื้อชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงบริการจากบริษัทสหรัฐฯ ได้ นั่นรวมไปถึงระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์สำหรับสมาร์ตโฟนด้วย แม้ทางหรัฐฯ จะผ่อนปรนการแบนออกไปจนถึง 19 สิงหาคม โดยให้ สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ทำให้ยังคงสนับสนุนและให้บริการต่างๆ ที่มีในปัจจุบันไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถซื้ออุปกรณ์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้

"เราไม่รู้ว่าเราจะใช้ระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ของกูเกิลได้ไหมในอนาคต ถ้าหากยังใช้ได้เราก็จะเลือกเป็นตัวเลือกแรกอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้ เราก็จะมีแผนสำรองไว้" เหลียงหัว ประธานหัวเว่ยเปรยถึงระบบปฏิบัติการหงเหมิ่ง (鸿蒙) ซึ่งหัวเว่ยกำลังพัฒนาสำหรับใช้แทนแอนดรอยด์

"เราเล็งเห็นถึงความท้าทายมากมายอยู่ตรงหน้าสำหรับกิจการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค แต่เราคิดว่าเราน่าจะผ่านพ้นไปได้"

เหลียงหัวชี้อีกว่า ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังสหรัฐฯ จัดหัวเว่ยขึ้นบัญชีดำ แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาถึงจุดร้อยละ 80 ก่อนถูกแบนแล้วพร้อมเสริมว่าหัวเว่ยจะไม่ยอมเลิกทำธุรกิจในต่างประเทศเพียงเพราะการแบนของสหรัฐฯ

"ด้วยรากฐานที่เราวางไว้ในช่วงครึ่งปีแรก เรายังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่องแม้แต่ในช่วงหลังถูกจัดเข้าบัญชีดำ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีอุปสรรคเลย เรามี และนั่นก็อาจส่งผลต่ออัตราการเติบโตของเราในระยะสั้น" ประธานหัวเว่ยกล่าวพร้อมอธิบายว่าการถูกแบนทำให้หัวเว่ยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องลงทุนในทรัพยากรในด้านต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ทดแทน การจัดการความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทาน และการส่งสินค้าให้ลูกค้าอย่างปลอดภัย และเผยว่าจะลงทุนการการวิจัยและพัฒนาอีก 120,000 ล้านหยวนในปีนี้

แคนาลิส (Canalys) บริษัทวิเคราะห์การตลาด เผยว่าในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน หัวเว่ยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 38 ของตลาดในประเทศจีน ด้วยยอดขายกว่า 37 ล้านเครื่อง แซงหน้าออปโอ้ วีโว่ เสี่ยวหมี และแอปเปิลโดยในไตรมาสที่สองของปีนี้ หัวเว่ยได้ส่วนแบ่งตลาดจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ในขณะที่ยอดขายในต่างประเทศตกลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว สอดคล้องกับที่ทางหัวเว่ยเผยเมื่อกลางเดือนมิถุนายนว่ายอดขายโทรศัพท์ในต่างประเทศเดือนมิถุนายนตกลงจากเดือนพฤษภาคมถึงร้อยละ 40

ที่มา: Bloomberg / Nikkei Asian Review / Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: