วันที่ 30 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมองว่า เป็นคนเดิมๆ เพียงแต่สลับกระทรวงกันเป็นเก้าอี้ดนตรี อย่างไรก็ตามต้องให้ระยะเวลาในการทำงาน
ส่วนคนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่น ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัตินั้น คนที่ตอบคำถามได้ดีที่สุดน่าจะเป็น เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องคุณสมบัติความไม่เหมาะสมก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ซึ่งก็ต้องรับฟัง คิดว่าต้องให้เวลาในการทำงาน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครดีหรือไม่ดี
เมื่อถามว่าฝากความหวังกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้ได้หรือไม่ วิโรจน์ กล่าวว่า ไม่หวังก็ต้องหวัง ดังนั้นต้องให้เวลาและให้โอกาสในการทำงาน ซึ่งประชาชนก็จับจ้องมองดูอยู่
“ต้องยอมรับว่า ถ้าเปิดโผออกมาแล้ว มีความใหม่ ประชาชนก็คาดหวังอะไรใหม่ๆ แต่พอเปิดออกมาแล้วทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม เป็นลักษณะเก้าอี้ดนตรี ประชาชนก็อาจจะสิ้นหวังบ้าง ความสิ้นหวังก็มาพร้อมกับการจับจ้อง เป็นแรงขับเคลื่อน แล้วแต่มุมมอง บางคนก็อาจจะมองว่าเป็นแรงกดดัน ไปถึงรัฐมนตรี ให้เร่งทำงานพิสูจน์ตัวเอง” วิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลเตรียมการตรวจสอบรัฐมนตรีหน้าเดิมอย่างไรบ้าง วิโรจน์ ย้ำว่าต้องรอการทำงานของรัฐบาล แต่สิ่งที่ก้าวไกลเร่งทำก็คือ เสนอกฎหมาย ทบทวนกฎหมายที่ล้าสมัย เช่น การเรียกรับผลประโยชน์ สำหรับการตรวจสอบถ่วงดุลพรรคก้าวไกลคงโฟกัสไปที่งบประมาณมากกว่า เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน หากได้งบที่ถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน
ส่วนผลการประชุมของพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ เรื่องการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน วิโรจน์ ตอบทันทีว่ายัง เราก็คงต้องทบทวน ว่าตำแหน่งไหน หน้าที่ใดที่ทำให้เราขับเคลื่อนนโยบายได้ดีที่สุด ซึ่งเรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา
"ยืนยันว่าเราคงไม่ได้ พิจารณาว่าตำแหน่งไหนทำให้เราดูเท่ แต่เราจะดูว่าตำแหน่งไหนที่จะเหมาะกับการที่เราจะขับเคลื่อน ตรวจสอบถ่วงดุลนโยบายได้ และหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านก็มีอีกหลายอย่าง สามารถที่จะคัดสรรองค์กรอิสระได้ การเสนอยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรี จึงต้องคิดดูในเรื่องของจังหวะและความเหมาะสม"
เมื่อถามว่าส่วนตัวสนใจกรรมาธิการชุดใดในสภาผู้แทนราษฎร วิโรจน์ กล่าวว่ายังไม่ได้คิด เรื่องนี้ได้มอบหมายให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ดำเนินการคัดสรร เหมือนสมัยพรรคอนาคตใหม่ คือ กรรมาธิการไหนตอบโจทย์นโยบายของประชาชนมากที่สุด สุดท้ายจะได้คำตอบว่าพรรคก้าวไกลเลือกกรรมาธิการที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค
วิโรจน์ ยังให้ความเห็นต่อกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค มองว่าเป็นการรับผิดชอบที่ไปจับมือกับพรรค 2 ป. หรือไม่
วิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ นพ.ชลน่าน แต่ยังมีคนสนใจข่าวนี้อยู่อีกหรือ คิดว่าการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้วก็ไปเป็นรัฐมนตรี ส่วนตัวมองข้ามช็อตไปแล้ว
เมื่อถามว่าการลาออก นพ.ชลน่าน จะช่วยลดแรงเสียดทานที่พรรคเพื่อไทยโดนโจมตีได้หรือไม่ วิโรจน์ ย้อนว่า นักข่าวถามก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นการเพิ่มหรือลดแรงเสียดทาน เพราะไม่ใช่การลาออกไปตัวเปล่าเล่าเปลือย
"ถ้าลาออกแบบนี้ ก็คงมีคนอยากลาออกเยอะแยะไปหมด เพราะคำว่าลาออกในมุมมองของประชาชนคือการแสดงความรับผิดชอบ แต่การลาออกลักษณะนี้เหมือนลาออกไปรับตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้น ให้คุ้มกับสิ่งที่ตนเองได้ทำ" วิโรจน์ กล่าว