18 มี.ค. 2567 เวลา 16.00 น. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมคณะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการด่านชายแดน CI ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ในช่วง ครม.สัญจร เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าชายแดนที่ปัจจุบันด่านมีเส้นทางคมนาคมที่คับแคบและยังมีพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ซึ่งด่านนี้จะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงการค้าไทย ลาว และจีน ซึ่งจีนมีความต้องการนำเข้าวัวจากไทยเป็นจำนวนมาก
ภูมิธรรม กล่าวว่า ทางจีนมีความต้องการวัวจากไทยมาก แต่ที่ผ่านมาเรายังข้ามไปยากเพราะมีปัญหาเรื่องต้องกักกันโรคที่ลาว แต่เราคุยกับทางจีนเรียบร้อยแล้วสามารถกักกันโรคที่ไทยได้ ซึ่งเรามีศักยภาพ ถ้าเชื่อมกับจีนได้และเราสามารถส่งเข้าลาวได้ เป้าหมายส่งออกอยู่ที่ 200,000 ตัว/ปี ยอดการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท จากเดิมยอดส่งออกที่ด่านมีมูลค่า 720 ล้านบาท จะเพิ่มเกือบ 10,000 ล้านบาท ที่นี่มีศักยภาพดีท่านนายกยิ่งลักษณ์เคยสร้างและทางฝั่งโน้นก็มีความพร้อม ทั้งรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านเข้าลาวและเข้าจีน แต่เราต้องแก้ปัญหาเรื่องอุทยานต้องอนุญาตให้ใช้พื้นที่ขยายถนนให้กว้างขึ้นซึ่งกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมพร้อมอยู่แล้ว ต้องเอามติ ครม. มาอนุมัติก็จะทำให้ที่ตรงนี้มีศักยภาพทั้งด้านการค้าและการขนส่ง
สำหรับจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นศูนย์กลางของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) เป็นจุดเชื่อมโยงในระบบโลจิสติกส์และกระจายสินค้า โดยจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก จะติดกับด่านสากลปางมอน เมืองคอบ แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถ้าสำเร็จจะสร้างโอกาสการเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สู่ลาว และเชื่องโยงไปยังจีน ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ปี 2566 จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก มีมูลค่าการค้ารวม 825 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญของไทยได้แก่ 1. น้ำมันดีเซล 2. น้ำมันเบนซิน 3. เครื่องอุปโภค 4. วัสดุก่อสร้าง และ5. รถแทร็กเตอร์