สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.และผู้ช่วยหาเสียงของ สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ตรวจสอบ กรณีที่ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.พรรคเพื่อไทย ขึ้นป้ายหาเสียงเรื่อง “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน” ว่า การขึ้นป้ายหาเสียงดังกล่าว เข้าข่ายทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตร 73(5) ที่ระบุว่า “หลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิด ทำให้ได้เปรียบในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือ พรรคการเมือง” หรือไม่
โดยยืนยันว่านโยบายดังกล่าวไม่สามารถทำได้จริง เป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง เพราะการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้จะเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจไปยกเลิกสัมปทานรถไฟฟ้าหรือเปลี่ยนแปลงข้อสัญญา ซึ่งเรื่องนี้แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังไม่สามารถยกเลิกสัญญาสัมปทานการสร้างรถไฟฟ้าได้ ซึ่งหากจะให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าในราคาถูกรัฐต้องชดเชยค่าส่วนต่างซึ่ง ส.ส.จะเอาเงินจากส่วนไหน และไม่ได้มีหน้าที่ไปหาเงินมาชดเชย นอกจากคนที่นำนโยบายนี้มาหาเสียงต้องใช้เงินส่วนตัวมาชดเชยเอง สามารถทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งตัวผู้สมัครหากมีสนามกอล์ฟ หรือที่ธรณีสงฆ์นำไปขายมาชดเชยส่วนต่างให้การลดรายจ่ายประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ก็ไม่สามารถเพียงพอมาชดเชยได้ ยืนยัน โครงการที่ สุรชาติใช้หาเสียงนี้ เป็นไปไม่ได้ พร้อมท้าให้ สุรชาติฟ้องกลับได้ โดยไม่กลัวมีคดีความเนื่องจากมองว่าไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปยกเลิกสัมปทานรถไฟฟ้าตามที่มาหาเสียงได้
สิระ ยังระบุด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีเปิดเวทีใหญ่ในการหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มกราคมนี้ และที่สำคัญ ขณะนี้มีข้อมูลว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งทำการว่าจ้างเหมารถสองแถวขนคนไปฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคการเมืองหนึ่ง ในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.65)จะให้ กกต.ไปตรวจสอบ กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งให้กกต.ต่อไป ส่วนนโยบายการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำที่เคยหาเสียงไว้ สิระ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทำอยู่ นายกฯก็พยายามทำให้ประชาชนอยู่ถ้าหากยังไม่ทำและหมดสมัยของรัฐบาลก็มาว่ากันซึ่งยังมีเวลาทำอยู่อีกปีกว่ายังไม่ได้ผิดสัญญาอะไร
อย่างไรก็ตาม สิระมั่นใจ 100% ว่า สรัลรัศมิ์ จะสามารถคว้าชัยชนะ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็น ส.ส.หลักสี่-จตุจักรในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน