สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่าหลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ เริ่มเปิดพื้นที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจ พบว่าจำนวนผู้ใช้บริการโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 300,000-400,000 คน โดยเมื่อวานนี้มีผู้ใช้บริการรถเมล์โดยสารแล้วกว่า 500,000 คน ส่งผลให้ ขสมก.ต้องกลับมาเดินรถด้วยจำนวนรถเกือบร้อยละ90 ของจำนวนรถปกติที่ มีกว่า 2,000 คัน 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าแม้ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์จะไม่ได้เพิ่มขึ้นจนถึงเกือบ 1 ล้านคนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนผู้โดยสารปกติ ก่อนมีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แต่จำนวนผู้โดยสารกว่า 500,000 คนที่มีขณะนี้ เมื่อต้องใช้ควบคู่กับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing บนตัวรถ ทำให้รถแต่ละคันจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นใช้บริการ ดังนั้นแม้จะมีผู้โดยสารเพียงร้อยละ 50 ของช่วงปกติ ขสมก.ก็ต้องเดินรถเต็มที่ เพื่อให้มีปริมาณรถเมล์เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการ

"ยอมรับว่าสถานการณ์ในช่วงเย็นตั้งแต่ 18.30 น.จนถึง 21.00 น จะเป็นช่วงที่ต้องโหมเดินรถเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านได้ก่อนช่วงเวลาเคอร์ฟิว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าขณะนี้ยังมีข้อดี ที่ไม่มีปัญหารถติดรุนแรง รวมทั้งไม่มีสภาพฝนตกเหมือนช่วงฤดูฝน ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้การจัดปริมาณรถให้เพียงพอ และประชาชนเดินทางกลับได้ทันตามเวลา ยุ่งยากขึ้นไปอีก" นายสุระชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขสมก.ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในสถานการณ์ที่ยังต้องมีการรักษามาตรการ ระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ทั้งนี้ ขสมก.อยากขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ยังต้องใช้มาตรการรณรงค์ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และมาตรการ Work From Home ต่อไป เพื่อไม่ให้มีปริมาณประชาชนเดินทางมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบมากเกินไป ในช่วงที่ยังต้องมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมร่วมกันด้วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ขสมก. ยันไม่มีเจตนาปกปิด คนขับรถเมล์สาย 140 ติดโควิด-19
• คนขับรถสาย 140 เสียชีวิตจากโควิด-19 พร้อมกักตัวคนใกล้ชิด 18 คน