การเมือง
'ประยุทธ์'ไม่ลาออกหนีปัญหา-หนุนตั้งคณะทำงานหาทางออก-เตือนชัยชนะบนซากปรักหักพัง
เวลา 21.30 น. วันที่ 27 ต.ค. 2563 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงปิดท้ายในญัตติอภิปรายทั่วไปของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ ว่า ในช่วงเป็นรัฐบาลก่อนหน้านี้และรัฐบาลปัจจุบัน หลายอย่างที่ฟังในรัฐสภา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ค่อยเห็นชอบกับตน ก็มักพูดจาโจมตีตนเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตนทราบดีเป็นวิธีการทำงานของท่าน ไม่เป็นไร ตนรับได้ ตนก็ฟังมาหลายรอบแล้ว ฝ่ายรัฐบาลพยายามชี้แจง ท่านก็บอกว่าตัวเลขของรัฐบาลไม่จริง แต่ตัวเลขของท่านต่างหากบิดเบือน ตนไม่ได้ขึ้นบัญชีคนจน
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ถ้าบอกว่าให้ตนลาออก เพราะบริหารประเทศล้มเหลว ย้อนไปปี 2549 และปี 2557 มีการชุมนุม แล้วตอนนั้นลาออกหรือไม่
"เรื่องการชุมนุม ผมรักลูกหลานทุกคน ผมรักนิสิตนักศึกษาทุกคน แต่เราควรสร้างความเข้าใจกันได้หรือไม่ ที่จะชี้นำในทางที่ถูกต้องทางที่สงบ ผมยอมรับฟัง ทุกคนคือเสียงหนึ่ง"
ในเรื่องของชุดนักเรียน ถ้าจำได้ไม่ผิด ตนจำได้เคยมีคำชี้แจงว่าการแต่งชุดนักเรียนทำให้ประหยัดไม่มีความแตกต่างระหว่างความรวยความจน ทรงผมก็ให้ความปลอดภัยแก่นักเรียน นักศึกษาไม่ให้ถูกทำร้าย เวลานี้โลกเปลี่ยนแล้ว ตนยอมรับได้
ปัดปิดกั้นสื่อ ย้ำละเมิดยอมไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การที่ ส.ส.บอกว่ามีการใช้โซเชียลมีเดียขับเคลื่อนการชุมนุม ตนมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ก็ทราบการแพร่ข้อความต่างๆในโทรศัพท์ มีการโพสต์ครั้งแรก 200 คน และเพิ่มเป็น 50,000 คน บางแอคเค้าท์ ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่าเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ ที่บอกรัฐบาลไปปิดกั้น ตนไม่อยากปิดกั้น ถ้าละเมิด ไม่สุภาพ ตนก็ยอมรับไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ตนห่วงมากที่สุด เป็นห่วงประเทศชาติ ว่าจะเป็นอย่างไร จะเดินทางไปทางไหน ประเทศไทยของเราประสบความสำเร็จการควบคุมการแพร่ระบาด โควิด-19 มีหลักฐานสถิติเป็นที่ประจักษ์ว่าทำได้เพียงใด เพราะมาจากสาธารณสุขที่เข้มแข็ง จากคนรุ่นเก่า พัฒนาโดยคนรุ่นต่อมาจนถึงปัจจุบัน และพวกเราคนไทยมีความสามัคคี ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ควรภาคภูมิใจจารึกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย และเราต้องระวังการแพร่ระบาดเพราะทุกภูมิภาคทั่วโลกยังมีการแพร่ระบาด อย่าคิดว่ามีศูนย์คนแล้วจะปลอดภัย
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การชุมนุมในกรุงเทพฯไม่โทษเขา แต่ตนอาจไม่ทราบเท่าท่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่จะขับเคลื่อน ขณะเดียวกันตนได้รับรู้จากนักข่าวข้างล่างว่ามีเบื้องหลัง ก็เสียใจ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"ผมเห็นด้วยตั้งคณะทำงานศึกษา หาทางออก เอาทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล รัฐสภา ผู้เห็นต่าง หรือผู้ที่อะไรก็แล้วแต่ ก็คุยให้รู้เรื่องแล้วกัน ไม่นั้นก็ว่ากันไปกันมาต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ก็ไปหามาให้ได้แล้วกัน จะเจรจากับใคร ทุกคนเป็นหัวหน้าทั้งหมด ต้องหาสถานที่กว้างๆ หน่อย"
เดือดถูกรุมบี้ให้ลาออก ย้ำไม่ออกหนีปัญหา ทิ้งบ้านเมืองไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงอย่างมีอารมณ์ในช่วงท้ายถึงข้อเรียกร้องของหลายฝ่ายให้ตัวเองลาออกว่า "ลาออก อะไรออก การแก้ไขรัฐธรรมูญอยู่ขั้นตอนนั้นอยู่แล้ว เป็นเรื่องของรัฐสภา เมื่อกี้มีหลายท่านโยนกลับมาที่ผม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมสนับสนุนในฐานะฝ่ายบริหาร ทั้งที่มีสามฝ่าย หน้าที่ใครก็ทำ ผมไม่อาจกล่าวล่วงกับท่าน"
"ผมไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง หลายท่านบอกผมอยากอยู่ อยู่ยาว อยู่นาน ต้องไปถามคนร่างรัฐธรรมนูญโน่น เพราะผมไม่ได้เป็นคนร่าง ทุกคนปรารถนาดีทั้งหมด บางครั้งท่านก็พูดด้วยอารมณ์ของท่านไปบ้าง ท่านก็เอามาไล่ผมทุกวันอยู่นี่ ให้ความเป็นธรรมกับผมบ้าง ผมจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา ผมจะไม่ละทิ้งบ้านเมืองด้วยการลาออกยามที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา เหมือนคนที่เพิ่งฟื้นไข้หรือเหมือนคนอื่นๆที่หนีปัญหาในยามที่ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองให้ก้าวไปข้างหน้า จะแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเร่งด่วน"
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "การได้ชัยชนะกันท่ามกลางซากปรักหักพัง คุ้มค่ากันหรือไม่ มันจะไม่เหลืออะไรอีก สิ่งที่ท่าจะเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจ มันจะไม่เหลือน้อยนิด สงสารลูกหลาน เยาวชน ที่ท่านห่วงท่านรัก ท่านคิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า ท่านจะเอามาขับเคลื่อนทางการเมืองไปด้วย"
"เมื่อสักครู่มีเหตุการณ์น่าตกใจ เมื่อกี้มีนักข่าวแจ้งมามีการเตรียมการช็อตเด็ด เพื่อสู่เวทีโลก เลือดตกยางออก"
'วิสาร' ซัดใครสร้างบาปให้รับกรรมไป
วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิถูกพาดพิงตอบโต้ว่า "ผมเป็นคนเดียวที่เลือดตกยางออก และถูกกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉากระดับโลก ผมจะไม่พูดอะไร ไม่ประท้วงท่านนายกฯ ที่ท่านนายกฯ พูดไว้ กัมมุนา วัตตติ โลโก ใครที่สร้างบาปให้ประเทศชาติ ก็ขอให้รับกรรมนั้นไป"
ด้าน สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นขอให้ประธานตรวจสอบอาวุธ แต่ วิสาร ระบุว่า ขอให้ไปถามแม่บ้านชงกาแฟ พร้อมย้อนกลับว่า ถ้าแน่จริงให้มากรีดแขนแบบตน ซึ่งตนทำไปเพราะป้องกันไม่ให้เลือดตกยางออก
ขณะที่ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงนายกฯ ที่พูดว่ามีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ขอให้นายกฯถอนคำพูดว่าผู้ชุมนุมนำต่างประเทศเกี่ยวข้อง ถ้าไม่มีหลักฐานขอให้นายกฯ ถอนคำพูด แต่ นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่าผู้ประท้วงกำลังสร้างความแตกแยก ทำให้ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในฐานะประธานที่ประชุมได้ปิดไมค์แล้วบอกว่า นายกฯไม่ต้องถอนคำพูด
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่รับให้เปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญมาตรา 165 เป็นการฟังความคิดเห็น แม้ว่าความเห็นจะมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามคนที่เป็นห่วงอนาคตของประเทศคือประชาชน สภาของเราต้องหาทางออกที่บรรเทา เพื่อลดปัญหาลงระดับหนึ่ง ส่วนที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เสนอเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากมาตรา 165 แต่จะรับไปพิจารณา ขอขอบคุณทุกฝ่าย
จากนั้นเวลา 22.00 น. เลขาธิการรัฐสภาได้อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ และปิดประชุมรัฐสภาในที่สุด
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระบบตามระบบของรัฐสภาอยู่แล้ว จากการ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญก็จะนำคำแนะนำต่าง ๆ มาตั้งคณะกรรมการศึกษาร่วมกัน โดยเอา คนทุกกลุ่มทุกฝ่ายทั้งขัดแย้งและไม่ขัดแย้งมาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน หากแก้คนเดียวคงไม่ไหว นี่คือทางออกของเรา เมื่อถึงเวลาเปิดประชุมสภาก็ต้องเปิดไม่ใช่ว่าไม่ไหวแล้วถึงเปิด ซึ่งต้องมีขั้นตอนและมีวิธีการที่รัดกุม หากเปิดแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็ไม่ทราบว่าจะเปิดเพื่ออะไร
ส่วนข้อเสนอแนะของการประชุมทั้งสองวันนี้ จะออกมาเป็นรูปธรรมได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ต้องไปศึกษาก่อน ส่วนสถานการณ์จะคลี่คลายลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคน ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
