สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) รายงานอ้างอิงสำนักข่าวเดอะฮอลิวูด รีพอร์ทเตอร์ สะท้อนความเสียหายของวงการโรงภาพยนตร์ทั่วโลกที่ต้องแบกผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์อาจมีสูงถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 530,000 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยภายใต้ตัวเลขนั้น ราวๆ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 210,000 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน มี.ค.
ในทางตรงกันข้าม เน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการชมภาพยนตร์สตรีมมิงออนไลน์กลับประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 117,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า อีกทั้งผลกำไรสุทธิยังขึ้นไปแตะเลข 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 65,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 31.36
ความท้าทายเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกับวงการการฉายภาพยนตร์ตั้งแต่ก่อนโลกจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตโรคระบาดด้วยซ้ำ
'ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์' สัมภาษณ์พิเศษนายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ก่อนได้คำตอบว่าสำหรับวงการฉายภาพยนตร์แท้จริงแล้วแพลตฟอร์มออนไลน์อาจไม่ได้เข้ามาบั่นทอนธุรกิจมากอย่างที่เราเข้าใจและชี้ว่าสุดท้ายคอนเทนต์จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ
รองประธานฯ การตลาดเมเจอร์ฯ ย้ำว่าตัวเขาไม่มองว่าช่วงเวลาที่ต้องปิดการฉายหนังราวๆ 2 เดือน เพื่อตอบรับมาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลให้กำไรรวมสิ้นปีออกมาในแดนลบ เนื่องจากบริษัทยังมีช่องทางในการทำธุรกิจหลังการผ่อนปรบรวมถึงสิ่งที่ปรับกลยุทธ์ไปในช่วงที่ผ่านมา คือปรับเปลี่ยนโฆษณาจากลูกค้าที่ควรจะฉายอยู่ในโรงหนังมาที่ช่องทางออนไลน์ของบริษัทแทน
เมเจอร์ฯ ย้ำว่าปัจจุบันนี้บริษัทไม่ได้ทำธุรกิจแค่การฉายภาพยนตร์อีกต่อไป แต่ผันตัวมาเป็นผู้ผลิตหนังไทยป้อนตลาดทั้งในประเทศรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในฝั่งเอเชียแปซิฟิค ทำให้ได้รายได้เพิ่มเติมจากการขายลิขสิทธิ์หนังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามนรุตม์ ย้ำว่าอุตสาหกรรมการฉายภาพยนตร์จะยังคงอยู่ต่อไปได้ด้วยการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในที่นี้คือการฉายหนังที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด
นรุตม์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าถ้าคอนเทนต์ดี จะดึงคนกลับมาที่โรงเสมอ เรามีคอนเทนต์เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ เวลาเราฉายคอนเทนต์ดีๆ บางวันเราฉายเป็นหลักร้อยล้านบาทได้เลย"
โดยเมเจอร์ฯ ย้ำว่าคอนเทนต์ในมือทั้งเก่าและใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในปีนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถกลับมาตีตื้นทำกำไรได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ซึ่งเป็นช่วงที่หนังใหญ่จากฮอลิวูดเข้าชนกันทุกสัปดาห์และคาดว่าเป็นช่วงที่ประชาชนน่าจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากขึ้น
นอกจากนี้ นรุตม์ ยังชี้ว่า อุตสาหกรรมจำเป็นต้องมองช่องทางการเติบโตให้ได้ ซึ่งในกรณีของเมเจอร์เล็กเห็นความต้องการที่มากขึ้นตามต่างจังหวัด จึงเล็งสร้างภาพยนตร์ที่มีภาษาท้องถิ่นเพื่อตอบโจทย์คนต่างจังหวัดและเน้นขยายสาขาในต่างจังหวัดเป็นหลักเนื่องจากยังมีกำลังซื้ออีกมาก
ในทำนองเดียวกัน นายภูวนัตถ์ โลกเจริญลาภ ผู้มาชมภาพยนตร์ในวันแรกที่รัฐบาลหลังรัฐบาลออกมาประกาศผ่อนปรนชี้ว่า ตามปกติแล้วตนเองมาดูหนังเพื่อรับฟังเรื่องราวที่ผู้เล่าเรื่องหรือผู้สร้างหนังต้องการจะสื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แพลตฟอร์มออนไลน์ยังทำไม่ได้เพราะไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่จะไปสู่แพลตฟอร์มเหล่านั้น ทั้งยังพร้อมสนับสนุนคนทำหนังหากคอนเทนต์ที่ออกมาดีพอ ภูวนัตถ์ ยังชี้ว่าปกติตนเองไม่ได้ยึดติดกับโปรโมชันต่างๆ หากหนังดีจริง ก็พร้อมที่จะจ่ายเพื่อเข้าชม
"เราอยากอุดหนุนคนทำหนัง อยากให้เขาได้สร้างหนังดีๆ" ภูวนัตถ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายบุญมี วงศ์สถิตวิไลรุ่ง ข้าราชการเพิ่งเกษียณอายุราชการชี้ว่า ตนเองเพิ่งจะมีโอกาสได้กลับมาดูบ่อยๆ ก่อนเกิดโควิด-19 ไม่นาน และสิ่งที่ทำให้เลือกออกมาดูหนังแทนการนั่งดูที่บ้านคือรรถรสที่ได้จากการมาโรงหนังทั้งระบบภาพและระบบเสียงที่การดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ไม่ได้ แต่ก็ชี้ว่าหากอนาคตระบบเสียงและภาพเหล่านี้สามารถเข้าไปอยู่ตามครัวเรือนได้จริงก็น่าจะเป็นปัญหากับอุตสาหกรรมการฉายหนังไม่น้อย
การปรับตัวของธุรกิจเป็นเรื่องปกติเมื่อเวลาเปลี่ยนไปหรือเงื่อนไขในตลาดการแข่งขันเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ใจความสำคัญของการทำธุรกิจยังคงเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ประกอบการสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ พวกเขาก็คงจะไม่ล้มหายตายจากไปไหน