สำนักข่าว Reuters รายงานว่ารัฐบาลอังกฤษกำลังเร่งผลักดันให้ประชาชนฉีดวัคซีน ‘บูสเตอร์โดส’ เข็มที่ 3 โดยด่วน "เพื่อรักษาอิสรภาพของพวกเราเอาไว้" เนื่องจากขณะนี้การระบาดของโควิด-19 กำลังระบาดใน “อัตราที่น่าตื่นตะลึง” ในขณะที่การระบาดในกรุงลอนดอนเพียงพื้นที่เดียว คือการติดเชื้อกลายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ มากถึง 40%
รัฐบาลอังกฤษพยายามย้ำกับประชาชนว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสยังถูกจัดอยู่ใน “กลุ่มเปราะบาง” และควรเข้ารับวัคซีนกระตุ้นโดยเร็วที่สุด
โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องฉีดวัคซีนโดส 3 ให้กับประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนที่ต้องการฉีดภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมประกาศว่าการนัดพบแพทย์เพื่อรักษาบางโรคจำเป็นต้องถูกเลื่อน เพื่อโฟกัสที่การระดมฉีดวัคซีนก่อน
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโอไมครอนเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งหมด 10 คน ขณะที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมีการรายงานผู้เสียชีวิตจากโอไมครอนรายแรกของโลกแล้วในอังกฤษ ส่งผลให้ทางการเพิ่มระดับการจับตาการติดเชื้อโอไมครอนในประเทศมากยิ่งขึ้นเป็น 'ระดับ 4' ซึ่งหมายถึง "อัตราการระบาดที่สูงหรือกำลังพุ่งสูงขึ้น" โดยเคยประกาศใช้เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้น BBC ยังรายงานว่า มีการขอให้ประชาชนในอังกฤษทำงานจากบ้านทันทีหากว่าสามารถทำได้ ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการใน "แผน B" ของรัฐบาล ซึ่งจอห์นสันเองถึงกับยอมรับกับประชาชนว่า "ผมเกรงว่าเรากำลังเผชิญกับภาวะฉุกเฉินในศึกสู้กับโอไมครอนแล้วในตอนนี้"
- เพิ่มจำนวนจุดฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ทั่วประเทศ
- เพิ่มชั่วโมงการเปิดให้บริการคลินิกต่างๆ
- เพิ่มจำนวนการฝึกเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนหลายพันคน
- เจ้าหน้าที่ทหาร 42 หน่วยเตรียมเข้าช่วยจัดการระดมฉีดวัคซีน
- เพิ่มกำลังการฉีดวัคซีนในสก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีอังกฤษว่าจะเกิดการ 'ล็อกดาวน์' ขึ้นอีกครั้งหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนเทศการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง จอห์นสันบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์การยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุขให้มีความเข้มงวดขึ้นจากสมาชิกพรรคเสรีนิยมของเขาเอง พร้อมทั้งประเด็นความนิยมต่อตัวนายกฯ ที่ต่ำลง
ความรุนแรงของสถานการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มตื่นตัวและพยายามจองคิดเข้ารับวัคซีนโดสที่ 3 โดยบริการสุขภาพแห่งชาติ หรือ NHS ระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่าทั้งระบบการจัดการคิวและการจองเข้ารับวัคซีนกำลังเผชิญกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นหนักมาก ถึงขั้นที่ต้องมีคำแนะนำให้ผู้ที่พยายามจองคิวนั้น "ลองใหม่อีกครั้ง" ขณะที่อุปกรณ์การตรวจหาเชื้อเองที่บ้านประชาชนยังคงสามารถสั่งได้ฟรีตามปกติ