ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ประชุมกรรมาธิการป้องกันปราบปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งในระหว่างเข้าวาระพิจารณาตามปกติ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นนำเอกสารคำร้องกรณีขอให้กรรมาธิการตรวจสอบบ้านพักริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพื้นที่รุกล้ำเขตแม่น้ำ ไปยื่นต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ระบุว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างระเบียบวาระการประชุม ซึ่งหากจะยื่นเรื่องร้องเรียนก็ให้ไปยื่นต่อเลขากรรมาธิการ ทำให้นายสิระแสดงความไม่พอใจ พร้อมต่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เนื่องจากว่าที่ผ่านมา ตัวพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยรับเรื่องร้องเรียนจากกรรมาธิการคนอื่นรวมถึงประชาชนที่มายื่นคำร้องต่างเช่นกัน 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงตอบโต้ว่า "ผมไม่ให้เกียรติคุณไง ก็ให้ไปยื่นกับเลขาแทน" นายสิระ จึงสวนกลับไปว่า "ท่านกลัวอะไร" จากนั้นมีการตอบโต้กันไปมา ขณะที่กรรมการคนอื่นๆ เช่น นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ทักท้วง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าดำเนินการโดยเลือกปฏิบัติหรือไม่

ขณะที่นางสาวปารีณา ได้ยื่นเรื่องถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้สอบจริยธรรม ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จากเหตุการณ์ ไม่รับเรื่องร้องเรียน ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการที่ให้สอบเรื่องการ รุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และถ้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่อยากรับเรื่องที่ตัวเองถูกร้องเรียนก็ควรจะลาออก จากการเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ นอกจากนี้ยังเห็นว่า พล.ต.อ.เสพิศุทธ์ ยังใช้อำนาจเกินขอบเขต รื้อคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาพิจารณาทั้งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พิจารณาไปแล้ว กรรมาธิการฯ ไม่มีอำนาจนำมาพิจารณา และไม่มีอำนาจเรียกใครมาตรวจสอบอีก