ไม่พบผลการค้นหา
ว่าที่ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ร่วมลงนามสัตยาบัน จะไม่ทรยศต่อประชาชน พร้อมประกาศ 5 ข้อ ยุติสืบทอดอำนาจ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ ยึดอุดมการณ์พรรค และเดินหน้าทวงคืนอำนาจให้ประชาชน

วานนี้ (30 มี.ค.) ที่จังหวัดชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ จัดสัมมนาว่าที่ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ โดยในช่วงเย็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดได้ลงนามคำประกาศสัตยาบันร่วมกันสำหรับการเตรียมตัวทำงานในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า การจะมี ส.ส. ได้เพราะมีประชาชน มีระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ว่าที่ ส.ส.ของพรรคทุกคน ต้องตระหนักว่า ถ้าอำนาจสูงสุดไม่เป็นของประชาชนก็จะไม่มี ส.ส. ซึ่งนี่เป็นตำแหน่งเดียวที่ใช้อำนาจรัฐโดยมีที่มาจากการการเลือกของประชาชน

ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ นั้นมาจากการแต่งตั้ง จึงขอให้ภาคภูมิใจในการเข้ามาใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน ทั้งนี้ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เรามีความขัดแย้งต่อเนื่อง ผู้คนจำนวนมากสิ้นหวังกับการเมือง สิ้นหวังกับระบอบรัฐสภา ดังนั้น 6.2 ล้านเสียงที่พรรคอนาคตใหม่ได้มา เป็นคะแนนของความหวังจากประชาชนที่อยากเห็นเราไปทำงานให้ อยากเห็นเราเดินหน้าการเมืองแบบใหม่ อยากเห็นเราเป็น ส.ส. ที่แตกตางจากในอดีต นี่คือเสียงที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อเราได้รับอาณัตินี้มาแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไปสร้างการเมืองที่ดีขึ้นตามนโยบายที่เคยให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการยุติสืบทอดอำนาจของ คสช. ปฏิรูปกองทัพ ลอบล้างผลพวงรัฐประหาร จัดทำรัฐธรรมนูฉบับใหม่ นี่คือพันธสัญญาที่ให้ไว้และเราจะไม่มีวันทรยศพี่น้องประชาชน

ส่วนกรณีเรื่องของงูเห่า นายปิยบุตร ยืนยันว่าไม่มีงูเห่าสีส้มอย่างแน่นอน เพราะพรรคอนาคตใหม่รวมกันด้วยอุดมการณ์ ด้วยความเชื่อมั่นแบบเดียวกัน และตนเชื่อมั่นว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคทั้งหมดนั้น ตระหนักร่วมกันดีถึงการที่เรามีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ มีสมาชิกของพรรคทั่วประเทศ ช่วยเหลือและทำงานมาด้วยกันอย่างหนัก และเพื่อให้เป็นมิติใหม่ทางการเมือง โดยขอเชิญทุกคนลงชื่อในคำประกาศสัตยาบัน ซึ่งแม้ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แต่จะเป็นหมุดหมายใหม่ว่า เราเริ่มต้นทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์ ด้วยความหวัง และเราจะไม่ทรยศพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเรา

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ตอนนี้มีราคาตลาด ตามที่เป็นข่าวแล้ว 10 ล้านขึ้นไป เงินจำนวนนี้อาจจะเอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับหลายคน และมีน้อยคนนักจะเคยเห็นเงินสดจำนวนนี้ ซึ่งถ้าเรารับไปย่อมทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่ แต่คำถามที่อยากชวนทุกท่านถามตนเองก็คือ เรามารวมกันที่นี่เพราะอยากมีอนาคตดีขึ้นของเราเพียงคนเดียวเท่านั้นหรือเปล่า หรือเข้ามาเพราะว่าอยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศดีขึ้น คือ อนาคตที่ลูกหลานของทุกคนได้เรียนฟรีในโรงเรียนที่มีคุณภาพ อนาคตที่ทุกคนมีรัฐสวัสดิการที่ดีที่อนุญาตให้คนได้ลองผิดลองถูกในการใช้ชีวิต อนาคตที่บริการภาครัฐมีมาตรฐานเท่าเทียมกับสากลและถูกออกแบบเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ อนาคตที่คนต่างจังหวัดมีทางเลือกมากกว่างานภาคการเกษตร อนาคตที่คนรวยได้เพราะความสามารถไม่ใช่เอาเปรียบผู้อื่น อนาคตที่ประเทศนี้ไม่ต้องเจอรัฐประหารอีก ขอถามว่าอนาคตแบบนี้มีค่าพอจะไขว่คว้าหรือพอจะเสี่ยงชีวิตเพื่อมันหรือไม่

จากนั้นนายธนาธร ได้อ่านคำประกาศสัตยาบันของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่เป็น ส.ส. ซึ่งระบุว่า ด้วยข้าพเจ้าตามรายชื่อท้ายคำประกาศนี้ เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่้วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ขอให้สัตย์ปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้ 1.จะสนับสนุนและผลักดันบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมติของพรรคอนาคตใหม่ และจะไม่เสนอชื่อหรือให้ความเห็นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 

2.จะสนับสนุนและผลักดันการลบล้างผลพวงรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 3.จะสนับสนุนและผลักดันให้มีการปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย 4.จะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ทุกประการ และ 5.จะต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

"ข้าพเจ้าซึ่งลงนามตามรายชื่อท้ายคำประกาศนี้ ขอประกาศว่า คำประกาศนี้เป็นไปตามมโนสำนึกของข้าพเจ้าที่มีอุดมการณ์ร่วมกันกับพรรคอนาคตใหม่ และข้าพเจ้าจะยึดมั่นปฏิบัติคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ข้าพเจ้าได้หาเสียงไว้กับประชาชน และส่งผลให้ประชาชนได้มอบความไว้วางใจเลือกตั้งข้าพเจ้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะไม่ทรยศต่อประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเด็ดขาด" คำประกาศสัตยาบัน ระบุ ซึ่งในตอนท้ายมีการลงชื่อของผู้ที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด โดยให้แต่ละคนได้เก็บไว้กับตัวคนละ 1 ชุด ท่ามกลางผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ รวมถึงเจ้าหน้าที่พรรคอนาคตใหม่ รวมแล้วกว่า 500 คน ร่วมเป็นสักขีพยาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง