ไม่พบผลการค้นหา
จาตุรนต์ ฉายแสง เรียกร้อง ประยุทธ์ งดใช้ ม.44 เร่งประกาศตัวเป็นรัฐบาลรักษาการโดยเร็ว พร้อมย้ำยังเร็วไปจับมือฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาล ให้รอผลเลือกตั้งก่อน

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกาศพร้อมเป็นนักการเมืองเต็มตัว ว่า ประชาชนคงรู้แล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หัวหน้า คสช.มีโอกาสชิงความได้เปรียบ

ร.ท.ปรีชาพล ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับตนและนายจาตุรนต์จะลงเลือกตั้งเขตใด แต่การสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคยังไม่ได้ข้อสรุป ยังไม่ถึงขั้นตอนการสมัครจึงมั่นใจดำเนินการได้ทัน ส่วนการที่บัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้พรรคการเมืองนั้น ตามมาตรฐานประเทศสากลการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ไม่ควรเปลี่ยนแปลงให้ทำผิดจากประเทศอื่น เพราะอาจจะขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้ และไม่ควรโยนปัญหาไปให้ประชาชนแก้ไขเอง


จาตุรนต์ ปรีชาพล ไทยรักษาชาติ __6889541.jpg

ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ระบุว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัวและจะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง ก็ควรประกาศตัวเป็นรัฐบาลรักษาการโดยเร็ว เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของ กกต. และไม่อนุมัติงบประมาณให้มีผลผูกพัน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. จะต้องไม่ใช้มาตรา 44 แทรกแซงการเลือกตั้งและ กกต. ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงความสำนึกรับผิดชอบไม่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ขณะที่การจัดทำนโยบายของพรรคไทยรักษาชาติก็ไม่จำเป็นต้องจัดทำให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติก็ได้ แต่ถ้าตนเป็นรัฐบาลหากไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติจะมีโทษติดคุก และพรรคการเมืองสามารถแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติได้

เมื่อถามว่า ช่วงเลือกตั้งควรให้พล.อ.ประยุทธ์ สละตำแหน่งหัวหน้า คสช.ด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์ ระบุว่า การให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากหัวหน้า คสช. ยากกว่าใช้หัวเดินต่างเท้าเสียอีก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาตรา44 แทรกแซงเลือกตั้ง ถือว่ามีความความพอใจระดับหนึ่ง แต่ถ้าให้ดีหัวหน้า คสช. ควรงดเว้นใช้มาตรา 44 ในการจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน

เมื่อถามว่าได้หารือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหรือยัง นายจาตุรนต์ ระบุว่า ยังไม่มีการพูดคุย ส่วนการพูดคุยจะเกิดขึ้นเมื่อรู้ผลการเลือกตั้ง แต่อาจจะมีการพูดคุยบ้างในการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาล

เตือน ส.ว.อย่าฝืนเจตนารมณ์ประชาชน ถ้าฝ่ายประชาธิปไตย 300 เสียงข้างมาก

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัว ว่า ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องประกาศเป็นนักการเมือง คนทั้งบ้านทั้งเมืองก็รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองเต็มตัวมาตลอด แต่เมื่อพูดออกมาด้วยตัวเองก็ดี เพราะนับตั้งแต่วินาทีนี้ ในฐานะนักการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเป็นคนที่ทุกคนสามารถสัมผัสแตะต้องได้ และต้องรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ แม้ใครจะเรียกร้องเท่าไร เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ปล่อยเก้าอี้ หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์คงยืนยันว่ากฎหมายไม่จำเป็นต้องลาออก และจะกอดอำนาจความได้เปรียบต่อไป ส่วนตัวยังมั่นใจด้วยว่าเสียงข้างมากในสภาจะเป็นของฝ่ายประชาธิปไตย แต่ความมีเสถียรภาพต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย ทั้งนี้หากฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงข้างมาก ส.ว.ที่มาจาก คสช. ไม่ควรฝืนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจนกลายเป็นวิกฤตบานปลายในที่สุด

"ท่านต้องสำนึกว่าตัวเท่ากันกับนักการเมืองทุกฝ่ายต้องงดเว้นใช้ มาตรา 44 สร้างความได้เปรียบทางการเมืองอีก หวังว่าการประกาศตัวครั้งนี้จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สำนึกตัวว่าการเป็นนักการเมืองที่แท้จริงเขาปฏิบัติกันอย่างไรในสนามเลือกตั้ง สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ทำมาตลอดคือนักการเมือง ถ้าเลือกเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องเป็นในนามพรรคพลังประชารัฐ แม้ไม่สมัครสมาชิกพรรค แต่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดพรรคการเมือง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง