กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 ยื่นจดหมายถึง 8 สถานทูต ประกอบด้วย ฝรั่งเศส มาเลเซีย แคนาดา ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินโดนิเซีย และ ชิลี รายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ใน 4 ประเด็น ดังนี้
1. การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
2. การสลายการชุมนุมเป็นไปโดยไม่ได้สัดส่วน มีความรุนแรงเกินกว่าเหตุ
3. การใช้สรรพกำลังในการเข้าควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่รัฐไม่เป็นไปตามหลักสากล เห็นได้จากกรณีการใช้ปืนยิงกระสุนยางเข้าที่ใบหน้าและลำตัวของผู้ชุมนุม
4. การคุกคามหรือทำร้ายสื่อมวลชนระหว่างปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในการชุมนุม รวมทั้งการคุกคามผู้มาร่วมชุมนุม ก่อนการชุมนุมเกิดขึ้น จากรายงานของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่า มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งหมด 57 กรณี
โดยต้องการเรียกร้องให้สถานทูตของชาติผู้ร่วมประชุมเอเปคเหล่านี้ ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และแสดงความรับผิดชอบด้วยการกดดันรัฐบาลไทย อาจจะด้วยการยกเลิกความร่วมมือหรือการดำเนินนโยบายต่างๆที่เกิดขึ้นในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา
“การประชุมเอเปคที่เกิดขึ้น เหมือนกับเอาสิ่งที่รัฐบาลเผด็จการในปี 2558 วางไว้ มาฟอกเขียวด้วยเวทีระดับโลก แต่สุดท้ายนโยบายเหล่านี้ไม่ได้กระจายความมั่งคั่ง แต่กลับสร้างความเหลื่อมล้ำมากขึ้น” หนึ่งในตัวแทนกลุ่มระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าอาการของ พายุ บุญโสภณ จากกลุ่มดาวดิน หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณดวงตาจากการสลายการชุมนุมในวันดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า จากการประเมินสภาพแผลผ่าตัด แพทย์อนุญาตให้ พายุ ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นข้างนอกได้แล้ว เพียงแค่ต้องกลับไปทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการวินิจฉัยสภาพของดวงตาหลังการผ่าตัด และการรักษาในระยะยาวว่าจะเป็นแนวทางใดได้บ้าง
ในส่วนของสภาพจิตใจหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เท่าที่สอบถาม พายุ ระบุว่า ค่อนข้างที่จะรู้ตัวอยู่แล้วว่าจะใช้การดวงตาไม่ได้ อยู่ในช่วงทำใจ อาจจะนิ่งเงียบในตอนแรก แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาพูดคุยกับเพื่อนมากขึ้น เริ่มยิ้มได้ หัวเราะได้ โอเคมากขึ้น เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงปรับตัว
ทั้งนี้ กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) เวลา 19.00 น. ของวันนี้ เพื่อชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการชุมนุม รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มในลำดับต่อไป