ไม่พบผลการค้นหา
"ร.อ.ธรรมนัส" ยืนยันเรื่องวุฒิการศึกษาว่าไม่ใช่ของปลอม เตรียมทนายดำเนินการฟ้องร้องคดีกับบุคคลและองค์กรที่สร้างความเสียหายแก่ตัวเองจำนวน 100 คดี

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่ากรณีเรื่องวุฒิการศึกษา และเรื่องคดีความในต่างประเทศนั้นได้ชี้แจงและพูดเคลียร์ไปหมดแล้ว และปฏิเสธข้อมูลที่มีการอ้างว่าเป็นคำพิพากษาในคดี แต่ข้อเท็จจริงเป็นคำอุทธรณ์ของตัวเอง พร้อมย้ำว่ามีความสบายใจ และจะไม่มีการชี้แจงเรื่องนี้อีก โดยให้ข้อสังเกตว่าในเรื่องนี้เป็นเรื่องเกมการเมือง และยอมรับว่าโดนกระแสโจมตีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่มโดน ยืนยันเจตนามาเป็น ส.ส. เพื่อบ้านเมืองไม่ได้มาแสวงหาผลประโยชน์ หากท้ายที่สุดไม่มีผลงานลาออกเองได้ ไม่ต้องมีใครมาไล่

พร้อมแสดงความมั่นใจในสถาบันการศึกษาที่ได้รับประกาศนียบัตรมา ยืนยันเรื่องวุฒิการศึกษาที่ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ใช่ของปลอม และเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลองค์กรที่สร้างความเสียหายแก่ตัวเองจำนวน 100 คดี ที่มอบหมายทนายดำเนินการ ทั้งสื่อนอกและบุคคลโดยนับจากวันนี้จะเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรใคร แต่จะเป็นการดำเนินการด้านกฎหมายใครที่ทำอะไรไว้เตรียมตัวรับกรรม

รวมทั้งตั้งข้อสังเกตประวัติเจ้าของเพจ CSI LA ที่เปิดเผยข้อมูลเรื่องสถานบันการศึกษาว่า เป็นบุคคลที่มีคดีหนีไปอยู่ประเทศฝรั่งเศส 

ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบจะตรวจสอบนั้น พร้อมชี้แจงต่อสู้ในข้อเท็จจริง เพราะอยู่ในโลกแห่งความป็นจริง ไม่เป็นอีแอบหรือนินทาใครข้างหลัง การดำเนินการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นเรื่องการเมือง ที่จะถือโทษไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ฝ่ายค้าน


สื่อออสเตรเลีย เปิดข้อมูลเพิ่มกรณี "ธรรมนัส" เคยต้องคดี

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสฯ (12 ก.ย.) หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ยังคงนำเสนอข่าวเพิ่มเติมหลังจากได้รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เคยต้องโทษจำคุกด้วยข้อหาขนเฮโรอีนในออสเตรเลียระหว่างปี 2536-2540

รายงานข่าวเพิ่มเติมของซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ได้นำสำเนาคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่ให้ยกคำร้องขอลดหย่อนโทษของร.อ.ธรรมนัสกับจำเลยร่วมชาวไทย นายศรศาสตร์ เทียมทัด มาแสดงเป็นหลักฐานยืนยันรายงานข่าวดังกล่าว

บทรายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้พาดหัวข่าวว่า "รัฐมนตรีอดีตผู้ต้องขังเปลี่ยนคำชี้แจงเกี่ยวกับโทษจำคุกในซิดนีย์" โดยให้ข้อสังเกตว่า คำชี้แจงของร.อ.ธรรมนัสเมื่อวันพุธ (11 ก.ย. 2562) กับถ้อยแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อเดือนกรกฎาคมนั้น ไม่ตรงกัน

เมื่อเดือนกรกฎาคม เขาบอกผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 8 เดือน จากนั้นใช้ชีวิตตามปกติในออสเตรเลียอีก 4 ปี แต่เมื่อวันพุธ เขาบอกกับสภาผู้แทนราษฎรว่า เขาถูกควบคุมตัว 8 เดือน หลังจากนั้นใช้ชีวิตในสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้สำหรับพยาน

อย่างไรก็ตาม ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ยืนยันข่าวสืบสวนที่นำเสนอเมื่อวันจันทร์ โดยระบุว่า เอกสารของศาลรัฐนิวเซาท์เวลส์แสดงให้เห็นว่า ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งใช้ชื่อนามสกุลในเวลานั้น ว่า มนัส โบพรหม ได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องการขอวีซ่าและซื้อตั๋วเครื่องบินแก่สตรีชาวไทยคนหนึ่งซึ่งรับหน้าที่ขนเฮโรอีน และเขาเป็นคนนำเอากระเป๋าบรรจุยาเสพติดจากโรงแรมพาร์ครอยัลไปส่งให้ชาวออสเตรเลียผู้รับซื้อที่ย่านบอนไดของซิดนีย์

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังได้นำสำเนาคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์นิวเซาท์เวลส์ ที่ให้ยกคำร้องขอลดหย่อนโทษของร.อ.ธรรมนัส มาแสดงด้วย

คำวินิจฉัยระบุว่า ร้อยตรี มนัส กับนายศรศาสตร์ จำเลยร่วม ผู้เป็นพี่น้องต่างมารดา ถูกจับกุมในย่านบอนไดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2536 โดยถูกแจ้งข้อหานำเข้าเฮโรอีนมูลค่า 4.1 ล้านดอลลาร์ฯ เมื่อได้รับแจ้งจากผู้พิพากษาในเดือนพฤศจิกายน 2536 ว่า ความผิดของเขามีโทษจำคุก 9 ปี เขาจึงเริ่มให้การเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน เพื่อผ่อนโทษหนักให้เป็นเบา

เขารับสารภาพตามข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2536 ศาลแขวงนิวเซาท์เวลส์มีคำพิพากษาในวันที่ 31 มีนาคม 2537 ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 ปี โดยกำหนดให้จำขังอย่างน้อย 4 ปีและไม่มีสิทธิ์ยื่นขอปล่อยตัวก่อนกำหนดเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพาร์คลีย์ในวันที่ 14 เมษายน 2540

ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ รายงานด้วยว่า ทางหนังสือพิมพ์ได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ว่า ร.อ.ธรรมนัส มีสิทธิ์ที่จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลียหรือไม่ แต่กระทรวงทั้งสองยังไม่ตอบกลับ

ในเรื่องการเข้าประเทศออสเตรเลียนี้ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ให้ข้อสังเกตว่า ร.อ.ธรรมนัสคงไม่สามารถได้รับวีซ่า เนื่องจากระเบียบของกระทรวงมหาดไทยกำหนดว่า บุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมร้ายแรง คือ ต้องคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 12 เดือนขึ้นไป จะไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติ ซึ่งหมายความว่าจะไม่ได้รับการตรวจลงตราเข้าประเทศออสเตรเลีย.

ที่มา: Sydney Morning Herald, 12 September 2019

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :